เรื่องสั้น เหตุเกิดที่ ม.สารขัณฑ์ (ลาภมิควรได้

เรื่องสั้น เหตุเกิดที่ ม.สารขัณฑ์ (ลาภมิควรได้


5
แต่ในกรณีดังต่อไปนี้ ผู้รับคำสั่งทางปกครองจะอ้างความเชื่อโดยสุจริตไม่ได้ คือ
(1)ผู้นั้นได้แสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง หรือข่มขู่ หรือชักจูงใจโดยการให้ทรัพย์สิน หรือให้ประโยชน์อื่นใดที่มิชอบด้วยกฎหมาย
(2) ผู้นั้นได้ให้ข้อความซึ่งไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วนในสาระสำคัญ
(3 )ผู้นั้นได้รู้ถึงความไม่ชอบด้วยกฎหมายของคำสั่งทางปกครองในขณะได้รับคำสั่งทางปกครองหรือการไม่รู้นั้นเป็นไปโดยความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง”
มีนา จัน มองหน้า คม หักศอก และกำชัดว่า “เรื่องนี้ แกต้องรีบไปบอกพวกรองอธิการฯทั้งหลาย, ผู้ช่วยอธิการฯทั้งหลาย ที่ปรึกษาอธิการฯทั้งหลาย,คณะบดีทั้งหลาย และอื่นๆทั้งหลาย ให้ตรวจสอบดูว่า อยู่ในเกณฑ์นี้หรือไม่”
คม อุทาน “อันตรายมากเลยนะนี่ แล้วที่ว่ามานี่ มันจริงและถูกต้องหรือเปล่าวะ มีนา”
“ฉันก็ว่ามันถูกต้องนะ แต่เรื่องของกฏหมายมันเป็นเรื่องของการตีความ” และอธิบายต่อไปว่า “ในกรณีที่เพิกถอนโดยให้มีผลย้อนหลัง การคืนเงินทรัพย์สินหรือประโยชน์ที่ผู้รับคำสั่งทางปกครองได้ไป ให้นำบทบัญญัติว่าด้วยลาภมิควรได้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาใช้บังคับโดยอนุโลม โดยถ้าเมื่อใดผู้รับคำสั่งทางปกครองได้รู้ถึงความไม่ชอบด้วยกฎหมายของคำสั่งทางปกครองหรือควรได้รู้เช่นนั้น หากผู้นั้นมิได้ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงให้ถือว่าผู้นั้นตกอยู่ในฐานะไม่สุจริตตั้งแต่เวลานั้นเป็นต้นไป และในกรณีตามวรรคสามให้ผู้นั้นต้องรับผิดในการคืนเงินทรัพย์สินหรือประโยชน์ที่ได้รับไปเต็มจำนวน”
คม ขัดขึ้น “สงสัยจะต้องรีบไปบอกให้พวกนั้นให้ลาออกไปซะ เพราะตอนนี้ทุกคนรู้แล้วว่า คำสั่งปกครองที่ได้รับนั้นไม่ชอบด้วยกฏหมาย ที่สำคัญ “ต้องรับผิดในการคืนเงินทรัพย์สินหรือประโยชน์ที่ได้รับไปเต็มจำนวน” มันน่ากลัวมาก เพราะ รับไปมากโขอยู่ ตั้ง 3 ปีแนะ”
มีนา จัน อธิบายต่อว่า “กรณีนางแต้ม น่าจะเข้าตามมาตรา 51(3) เพราะรู้หรือควรจะรู้ว่า ตัวเอง หมดหน้าที่ ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2560 เป็นต้นมา และไม่มีคำสั่งแต่งตั้ง ผู้ใด เป็นผู้รักษาราชการแทน
ดังนั้น คำสั่งที่ออกมา ในปี พ.ศ. 2562 และ 2563 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะคำสั่งทางปกครอง ไม่สามารถออกมาเพื่อให้มีผลย้อนหลังได้ เว้นแต่จะมีกฎหมาย ให้อำนาจ ในการออกคำสั่งให้มีผลย้อนหลัง “ตามที่คณะกรรมการกฤษฎีกา ( คณะพิเศษ) ได้เคยให้ความเห็นในเรื่องเสร็จเลขที่ 596 /2545 ว่า เมื่อมีพระกฤษฎีกาจัดตั้ง องค์การสวนยาง พ.ศ. 2504 ไม่มีบทบัญญัติให้คณะรัฐมนตรี แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิย้อนหลัง คณะรัฐมนตรีไม่อาจแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการบริหารกิจการ ขององค์การสวนยางให้มีผลย้อนหลังได้”
“นี่ คม แกเห็นไหมล่ะ ขนาดคณะรัฐมนตรียังออกคำสั่งย้อนหลังไม่ได้เลย แล้วสภามหาวิทยาลัย ใหญ่มาจากไหน จึงบังอาจมาออกคำสั่งย้อนหลัง”
“อือ!” คม คางเบาๆ “เป็นห่วง เจ้าหน้าที่
ที่เกี่ยวข้องกับการเบิกจ่าย เงินเดือน เงินค่าบริหารให้นางแต้ม ,รองอธิการฯและผู้ช่วยอธิการฯทั้งหลาย ที่จะต้องมารับผิด ในกรณีที่ มาร่วมกระทำผิด โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ที่ไปเบิกเงินให้แก่ข้าราชการบำนาญ ที่ไม่มีคำสั่ง มอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งรักษาราชการอธิการบดี รวมทั้งรองอธิการบดีและผู้ช่วยอธิการบดี”
หมายเหตุ : เหตุผล ที่นางแต้ม รู้หรือควรจะรู้ว่า ตัวเองไม่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้รักษาการ อธิการบดี เพราะทุกคำสั่งของสภามหาวิทยาลัย นางแต้มจะต้องเป็นผู้ดำเนินการจัดทำคำสั่ง ให้นายกสภาฯเป็นผู้ลงนามทุกครั้ง แต่ก่อนวันที่ 16 กันยายน 2560 ไม่ได้ทำคำสั่ง จึงต้องรับรู้ว่า ไม่ได้แต่งตั้งตัวเองให้รักษาการอธิการบดี.
ถึงตรงนี้ ประชาคมชาว ม.สารขัณฑ์ ตะโกนพร้อมกันดังลั่นว่า “เสร็จแน่แก นางแต้มเอ้ย!
…..

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *