เรื่องสั้น หัวใจเปื้อนชอล์ก ตอน วิบากกรรม

brains

จิปาถะ

เรื่องสั้น  หัวใจเปื้อนชอล์ก ตอน วิบากกรรม

135

คืนนั้นนางแต้มนอนไม่หลับ อากาศที่ร้อนระอุราวกับนอนอยู่ในเตาอบ ยุ้งข้าวที่มีขนาดเล็ก ไม่มีหน้าต่าง จึงไม่แตกต่างไปจากห้องขังเดี่ยวของนักโทษอุกฉกรรจ์  นางแต้มรู้สึกอึดอัดเนื่องจากความอวบตามวัยของนาง เหงื่อที่ออกชุ่มตัวเหนียวเหนอะหนะไปด้วยฝุ่น แผลถลอกปอกเปิกทั้งแขนขาหน้าแข้งและเข่าปวดแสบสุดทน น้ำตาบีบไหลมาจากหัวใจที่โศกาอาดูรเสียดแทงจิตใจและเจ็บปวด นางกระซิบกับตัวเองด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและสิ้นหวัง “แม่จ๋า แต้มกลัว”

ทั้งๆที่นางเหนื่อยและอ่อนเพลียอย่างมากบวกกับความหิวที่ทำให้หน้ามืดตาลาย  ท้องร้องดังจ๊อกๆ สลับกับเสียงครืดคราดภายในท้องราวกับเสียงเทหินกรวดลงในโม่ผสมปูน ความหิวที่โหดร้อยจนแสบท้อง ยุงที่คอยจะสูบเลือดและส่งเสียงร้องอยู่ข้างหู ปลุกให้นางตื่นอยู่ตลอดเวลา แต่นางก็เผลอหลับไปจนได้

136

นางตื่นขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเห็นแสงสว่างส่องลอดเข้ามาตามรอยแตกของฝาผนังยุ้งข้าว เนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยผื่นแดงเพราะโดยยุงกัด นางรู้สึกกลัวตายและสยองเมื่อนึกถึง“ไข้เลือดออก” นางพยายามจะหยุดคิด หลับตาลงผ่อนลมหายใจเพื่อคลายความว้าวุ่นเพราะความกลัว นางรีบคลานไปดูที่รอยแตกเพื่อจะได้เห็นสิ่งที่อยู่ภายนอก ซึ่งอาจมีที่สังเกตได้ว่านางอยู่ที่ไหน  นางเห็นยุ้งข้าวเล็กๆหลายหลังเรียกกันเป็นแถวแต่ไม่ทราบว่าภายในได้จับใครขังไว้บ้างหรือเปล่า อาจเป็นพวกชาวนาดินเผาที่เก็บอัดอยู่เต็ม วางทับถมกันแน่น หากพวกนั้นมีชีวิตคงตายไปหลายคนแล้วเพราะการเบียดเสียดเยียดยัดเหมือนเหตุการณ์โหดเหี้ยมที่ตากใบเมื่อปี 2547  ถัดไปเป็นตึกที่ผู้คนกำลังขนย้ายสิ่งของเครื่องใช้ออกไป  ด้านซ้ายมีต้นมะขามสูงใหญ่สองสามต้น  มีหมาดำพันธุ์บางแก้วนอนอย่างสบายไร้ความรู้สึกอยู่บนม้าหินขัด ข้างๆมีกระถางใส่น้ำและอาหาร นางแต้มรู้สึกริษยาเจ้าหมาดำเสียเหลือเกิน มันมีอาหารและน้ำดื่มอย่างเหลือเฟือ ในขณะที่นางไม่มีอะไรจะกินสักอย่าง  นางรู้สึกหิวและกระหายน้ำจนตาลาย ริมผีปากแตกระแหงเหมือนรอยแตกของพื้นดินยามแล้งที่ทุ่งกุลาร้องไห้

137

เมื่อได้ยินเสียงไขกุญแจ นางแต้มมองตรงไปที่ประตูยุ้งข้าวที่กำลังเปิดออก แสงสว่างจ้าส่องเข้าตานางที่บวมเปล่งและเขียวคล้ำจนต้องหลับตา นางทั้งหิวและกระหายน้ำจนคอแห้งผาก  นางคิดว่าเจ้าพวกปีศาจไม่น่าจะใจร้ายกับนางอย่างนี้  พวกมันน่าจะมาดูแลเอาใจใส่นางบ้าง  ชายสองคนเข้ามาดูนาง   พูดโต้ตอบกันไปมาด้วยภาษาที่นางฟังไม่รู้เรื่อง จากนั้นก็ทำท่าจะเดินออกไป นางแข็งใจพูดออกไปว่า “น้ำ หิวน้ำ ขอน้ำด้วย” ชายที่มีหนวดหันมามองด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์ แล้วทั้งสองก็เดินออกไป ไขกุญแจปิดห้องไว้เหมือนเดิน

นางแต้มรู้สึกหดหู่ท้อแท้และสิ้นหวัง “มันอะไรกันนะ ไม่มีใครสนใจในความหิวโหยของฉันเสียเลย มีแต่คนคิดถึงแต่ตัวเอง ทำไมถึงไม่คิดถึงคนอื่นบ้างว่าเขาลำบากยากเย็นขนาดไหน  ช่างใจไม้ไส้ระกำกันเสียจริงๆ” นางแต้มสบถ

สักครู่ใหญ่ก็มีสิ่งของถูกส่งเข้ามาทางใต้ประตูยุ้งข้าว มันเป็นขันน้ำพลาสติก ใส่น้ำมาเพียง เศษ 1 ส่วนสี่ของขัน ข้าวเหนียวเท่ากำปั้นมือเด็กอ่อนห่อใบตองและหมูปิ้ง 1 ไม้ นางแต้มรีบคลานเข้าไปหยิบขึ้นกินและดื่มอย่างหิวโหย จนแทบสำลัก

…………..

 

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *