เรื่องสั้น หัวใจเปื้อนชอล์ก ตอน วิญญาณร้ายเข้าสิง

wiinudes

จิปาถะ
เรื่องสั้น หัวใจเปื้อนชอล์ก ตอน วิญญาณร้ายเข้าสิง
89
“อาจารย์พูดเรื่องวิญญาณเข้าสิงนางแต้ม แสดงว่าอาจารย์ต้องเชื่อในเรื่องวิญญาณอย่างแน่นอน” จานจิน ตั้งสมมุติฐาน
ผมไม่ได้ตอบว่าเชื่อหรือไม่เชื่อ แต่ผมอธิบายว่า
“ตัวผมนั้น ถ้าแบ่งหยาบๆ ก็แบ่งออกได้เป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นร่างกายหรือกายเนื้อ และส่วนที่เป็นจิต เป็น วิญญาณ หรือจิตวิญญาณ หรืออื่นๆที่แล้วแต่จะเรียก
สำหรับกายเนื้อนั้นผมกำลังเตรียมบริจาคให้โรงพยาบาลแล้ว ดันนั้น เมื่อผมตาย เรื่องกายเนื้อหรือร่างกายก็จบ ไม่ต้องห่วงหรืออาลัยอาวรณ์อีกต่อไป
ส่วนจิตวิญญาณนั้น ผมยังไม่รู้ว่า เมื่อร่างกายเสื่อมสลายแล้ว จิตวิญญาณของผมจะไปอยู่ที่ไหน อย่างไร
ซึ่งเป็นปัญหามืดสนิทสำหรับผมและคนอื่นๆอีกเป็นจำนวนมาก
แต่อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ผมยังไม่ตาย ผมก็ต้องเอาใจใส่ทั้งร่างกายและจิตให้สอดคล้องกันไป”
90
“ที่อาจารย์พูดอย่างนี้ แสดงว่าอาจารย์เชื่อว่าตายแล้วยังไม่จบ ยังมีเรื่องราวอีกเยอะแยะหลังความตาย”
ผมไม่ตอบ แต่ถากกลับไปว่า
“เธอเชื่ออย่างไหนล่ะ จานจิน”
“ผมก็ยังไม่ค่อยแน่ใจครับอาจารย์”
“เราลองมาตั้งสมมุติฐานกันดูนะ”
“ดีครับ ดี ถ้าเรารู้ เราจะได้เตรียมตัวทัน”
91
“ประเด็นแรก “ชีวิตหลังความตาย” มีจริงไหม จานจิน ว่าอย่างไร” ผมตั้งคำถาม
“ผมอยากให้มีจริงๆครับ เพราะผมเชื่อเรื่องกรรม คือ ทำดีต้องได้รับสิ่งที่ดี ทำชั่วต้องได้รับสิ่งชั่ว ทั้งโลกนี้และโลกหน้า”
“ผมว่านางแต้มก็เชื่อเรื่องกรรมเหมือนกัน เธอสะสมกรรมไว้เพียบเลย เพราะแกจะเอาไปใช้” ถากถางพูดแล้วอดขำตังเองไม่ได้
“ถากถาง อย่านอกเรื่อง” ผมทำเป็นดุ “เอาเรื่องชีวิตหลังความตายมีจริงไหมดีกว่า ถากถางเธอว่าอย่างไร”
“ผมไม่ค่อนแน่ใจครับ เพราะไม่มีหลักฐานหนักแน่นพอที่จะพิสูจน์ถึงความมีอยู่จริงของชีวิตหลังความตายหรือโลกหน้าได้ชัดเจน มีแต่อ้างกันไปอ้างกันมา เช่น ได้ไปหรือได้เห็นนรก เห็นสวรรค์ ต่างๆนานา เช่น นักบวชจี้กง พระมาลัย และอีกหลายท่าน แต่ก็ไม่ค่อยมีใครเชื่อ แม้แต่นักบวช เช่น พระพุทธาจารย์เหลียนเซิง หลูเซิ่งเยี่ยน ที่อ้างตนว่าสามารถสื่อกับเทพต่างๆได้ ก็ต้องถึงกับขอร้องให้เชื่อ โดยเอาความซื่อสัตว์ของตนเองมาการันตี แต่ก็ไม่ค่อยเชื่อกันอยู่ดี”
ถากถางหยุดนิดหนึ่งก่อนที่จะถามอาจารย์ว่า “แล้วอาจารย์เชื่อว่ามีหรือไม่มีครับ”
92
ผมไม่ตอบอีกเช่นเคย แต่ได้ยกข้อเขียนของ ริวโฮ โอคาวา (2557: 16) ผู้ก่อตั้งแฮปปี้ไซเอนซ์ เขากล่าวว่า “ หากชีวิตจำกัดอยู่แค่โลกนี้ และทุกสิ่งทุกอย่างสิ้นสุดที่ความตาย คนเราก็อาจจะใช้ชีวิตให้สอดคล้องตามนั้นได้ แต่หากมันมีอีกโลกหนึ่งหลังความตายตามเรื่องเล่าเก่าแก่ คุณจำเป็นต้องใช้ชีวิตให้เหมาะสม การที่คุณเชื่อหรือไม่เชื่อในการดำรงชีวิตอยู่ของชีวิตหลังความตายจะส่งผลอย่างมหาศาลต่อแนวทางที่คุณใช้ชีวิต”
“ใช่ครับอาจารย์” จานจินออกความเห็น “ผมคิดว่าพวกเรียนศิลปะต้องเชื่อเรื่องนี้ มิฉะนั้นคงจะ create อะไรไม่ได้”
………
พระพุทธาจารย์เหลียนเซิง หลูเซิ่งเยี่ยน.(2553).ปริญญา เอกภาพสากล แปล.การท่องเที่ยวอีกรูปแบบหนึ่ง (การแผ่รัศมีเพื่อโปรดกู้สรรพสัตว์ของมหาอิสระ). กรุงเทพฯ : บริษัทโบนัส พรีเพรส จำกัด.

ริวโฮ โอคาวา(2557).พรรพิสุทธิ์ โอสถานนท์ แปล.กฏแห่งความลี้ลับ.กรุงเทพฯ : มูลนิธิศาสตร์แห่งความสุข (ประเทศไทย).

Comments are closed.