เรื่องสั้น หัวใจเปื้อนชอล์ก ตอน ความฝันบรรเจิด August 13, 2015 • admin จิปาถะ เรื่องสั้น หัวใจเปื้อนชอล์ก ตอน ความฝันบรรเจิด 1 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหา สองสาวชุดแดง เต้นโชว์ในโบราณสถานที่เป็นวัดว่า “กระทำการใดๆในเขตโบราณสถาน อันเป็นที่น่ารังเกียจหรือเสื่อมเสีย ต่อศีลธรรมอันดี หรือลบหลู่ดูหมิ่นศาสนา และวัฒนธรรมหรือก่อความเดือดร้อนรำคาญ แก่ผู้เข้าชมอื่นๆ และกระทำโดยประการอื่นใดให้เสียความสงบเรียบร้อย มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือนปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท” 2 รักษ์ อยุธยา ชายสูงอายุวัยกว่า 70 ปี อ่านข่าวไทยรัฐออนไลน์ เรื่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาเบื้องต้นกับสองสาวชุดแดง เต้นโชว์ในโบราณสถานที่เป็นวัดจบแล้ว เขาใช้มือขวา เลื่อนเม้าท์ไป ทางด้านซ้ายของจอคอมพิวเตอร์แล้วคริ๊กที่คำว่า start จากนั้นคริ๊กที่ Shut Down และต่อด้วย OK ก่อนที่จะลุกจากเก้าอี้ เดินไปเปิดตู้เย็นรินนมสดมาดื่ม 1 แก้ว อาบน้ำ แปรงฟัน หยอดน้ำตาเทียม พ่นจมูก ทานยาต่อมลูกหมาก ล้มตัวลงนอนหงายบนเตียงนอน หายใจลึกๆเข้าและออกเบาๆ ใจจับอยู่ที่ท้องพองขึ้นเมื่อหายใจเข้าและท้องยุบลงเมื่อหายใจออก ไม่นาน รักษ์ อยุธยา ก็หลับไปอย่างง่ายดาย 3 เมื่อหลับสนิท รักษ์ อยุธยา ฝันไปว่า ตัวเขาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยศร้อยตำรวจตรี เพิ่งเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ณ สน. นี้ และต้องรับผิดชอบทำคดีสำคัญ 2 คดี คือ คดีสองสาวพริตตี้ใส่ชุดแดง เต้นโชว์ในโบราณสถานที่เป็นวัดและอีกคดีหนึ่ง คือ เจ้าหน้าที่ดูแลโบราณสถานที่เป็นวัด อนุญาตให้บริษัทอเมริกัน เข้าไปตั้งกองถ่ายทำภาพยนตร์ภายในโบราณสถานที่เป็นวัด และถ่ายภาพที่ไม่เหมาะสม ซึ่งคดีหลังนี้ ได้มีกลุ่มประชาชนที่รักโบราณสถานเข้ามาแจ้งความ 4 คดีแรก สองสาวชุดแดง ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาและให้ปากคำ จากนั้นก็อนุญาตให้ประกันตัวไป ส่วนคดีที่สองมีผู้ต้องหาหลายคน จึงได้ทำหมายเรียกจัดส่งไป ให้มารายงานตัวต่อพนักงานสอบสวน ขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ซึ่งทุกคนที่เข้ารายงานตัว รับทราบข้อกล่าวหา ให้ปากคำ และอนุญาตให้ประกันตัวไปโดยใช้ตำแหน่ง ทั้งสองคดี ร.ต.ต. รักษ์ อยุธยา ได้ตั้งข้อหาแบบเดียวกันว่า กระทำการใดๆในเขตโบราณสถาน อันเป็นที่น่ารังเกียจหรือเสื่อมเสีย ต่อศีลธรรมอันดี หรือลบหลู่ดูหมิ่นศาสนา และวัฒนธรรมหรือก่อความเดือดร้อนรำคาญ แก่ผู้เข้าชมอื่นๆ และกระทำโดยประการอื่นใดให้เสียความสงบเรียบร้อย มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือนปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท 5 ร.ต.ต. รักษ์ อยุธยาใช้เวลาเกือบสองสัปดาห์ทำการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองคดีเรียบร้อยแล้ว และได้ส่งสำนวนการสอบสวนทั้งสองคดีให้อัยการเพื่อส่งฟ้องศาล เมื่ออัยการตรวจสอบสำนวนเห็นว่าสมบูรณ์ในทุกประเด็นแล้ว จึงส่งฟ้องศาลไปตามระเบียบพร้อมกันทั้งสองคดี เนื่องจากสองคดีสำคัญนี้เป็น สองคดีแรกในความรับผิดชอบของ ร.ต.ต.รักษ์ อยุธยา วันที่ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดี เขาจึงเดินทางไปศาลโดยมีเพื่อนนายตำรวจตามไปด้วย 6 เมื่อได้เวลา ผู้พิพากษาได้ขึ้นนั่งบนบัลลังก์ ทุกคนยืนขึ้นทำความเคารพศาลและนั่งลง ก่อนอ่านคำพิพากษา ผู้พิพากษาได้แจ้งให้ทราบว่า จะพิจารณาตัดสินพิพากษาทั้งสองคดีต่อเนื่องกันไป เพราะทั้งสองคดี มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ข้อกล่าวหาก็เป็นข้อกล่าวหาเดียวกัน นอกจากนั้นทั้งโจทย์และจำเลยส่วนใหญ่เป็นบุคคลที่มีหน้าที่เกี่ยวเนื่องกัน ศาลจึ่งได้พิจารณาพิพากษาต่อเนื่องกันไปทั้ง 2 คดี ตามลำดับ จากนั้นผู้พิพากษาได้อ่านคำพิพากษา ในคดีแรกศาล กรณีสองสาวชุดแดง เต้นโชว์ในโบราณสถานที่เป็นวัด ได้พิพากษาว่า ให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนไป เพราะจากการสอบสวนผู้ต้องหา และหลักฐานที่ได้จากสภาพแวดล้อมทั้งสถานที่และบุคคล ปรากฏความชัดแจ้งว่าผู้ต้องหาทั้งสองมิได้มีเจตนาที่จะฝ่าฝืนกฎหมาย 7 ส่วนคดีที่เจ้าหน้าที่รับผิดชอบดูแลโบราณสถานที่เป็นวัด อนุญาตให้บริษัทถ่ายทำภาพยนตร์เข้าไปถ่ายภาพยนตร์ในโบราณสถานที่เป็นวัดนั้น ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า เจ้าหน้าที่เหล่านั้นเป็นผู้มีความรู้ และทราบอยู่แล้วว่า โบราณสถานที่รับผิดชอบอยู่นั้น เป็นศาสนสถานซึ่งก็คือวัด อันเป็นศูนย์รวมความเลื่อมใสศรัทธาของประชาชนทั่วไป ถึงแม้ว่าขณะนี้จะเหลือแต่เพียงซากปรักหักพัง ซึ่งจากข้อมูลเชิงประจักษ์แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ซากปรักหักพังเหล่านี้ ยังมีพุทธศาสนิกชนเข้าไปกราบไหว้บูชาอยู่เป็นประจำ และเห็นว่า เจ้าหน้าที่รับผิดชอบซึ่งมีความรู้ และทำหน้าที่ดูแลรักษาโดยตรง แทนที่จะประพฤติปฏิบัติให้เป็นตัวอย่างกับประชาชน แต่กลับกระทำสิ่งที่ไม่เหมาะสมเสียเอง จึงพิพากษาลงโทษ ปรับคนละ 10,000 บาท และให้จำคุกคนละ 1 เดือน โดยไม่รอลงอาญา 8 เมื่อการพิจารณาของศาลสิ้นสุดลง ขณะที่ ร.ต.ต.รักษ์ อยุธยาและเพื่อนตำรวจที่มาด้วยเดินออกจากศาล เขาเห็นชายสูงอายุรูปร่างเล็กคนหนึ่ง แต่งกายภูมิฐานเรียบร้อย ที่เขาเห็นนั่งอยู่ในศาลก่อนหน้านี้ ซึ่งในตอนนั้นเขารู้สึกคับคล้ายคับคา แต่ขณะนี้เขาจำได้อย่างแม่นยำแล้วว่าเป็นใคร ขณะเดียวกันนั้น เพื่อนนายตำรวจที่มาด้วยเดินเข้ามาใกล้เขา และกระซิบถามว่า “เจ้าคนนั้นมันหัวหน้าใหญ่ที่อนุญาตให้ถ่ายหนังที่วัดนี่หว่า ท่านปล่อยให้หลุดไปได้อย่างไรวะ” ร.ต.ต รักษ์ อยุธยา หันไปยิ้มน้อยๆกับเพื่อนนายตำรวจ ก่อนที่จะตอบว่า “เราไม่ได้ปล่อยให้เขาหลุดไปหรอก แต่เขาหลุดไปเอง เพราะเขาตายไปแล้ว” …………….
Comments are closed.