เรื่องสั้น หัวใจเปื้อนชอล์ก ตอน แก้เกม

fa

เรื่องสั้น หัวใจเปื้อนชอล์ก ตอน แก้เกม
1
สมพล ก.ไก่ นักศึกษาเอกศิลปะ เป็นคนรูปร่างผอมสูง ผิวเนื้อดำแดง ใบหน้ายาวเรียว ปากหนาในตามีประกายของความเจ้าเล่ห์ กิริยามารยาทสุภาพอ่อนโยน มีน้ำใจและเป็นที่รักของเพื่อนร่วมชั้นทุกคน แต่บางครั้งก็มีอะไรเพี้ยนๆอยู่บ้าง เนื่องจากผมเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของชั้นนี้ ผมมักจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ในชั้น โดยการพาไปทัศนศึกษาตามแหล่งเรียนรู้ต่างๆ ซึ่งนอกจากจะได้รับประสบการณ์ที่เป็นความรู้แล้วยังสามารถสร้างความสนิทสนมกลมเกลียวกันในหมู่นักศึกษาร่วมชั้นอีกด้วย จากกิจกรรมดังกล่าวผมและนักศึกษาจึงสนิทสนมกันมากเป็นพิเศษ
บ่ายวันหนึ่ง ขณะที่สมพล แยกตัวเองจากกลุ่มมาฝึกสเก็ตภาพรถยนต์คันเก่าของผมอยู่ที่ม้าหินขัดข้างถนนหน้าภาค ฯ ส่วนเพื่อนๆไปนั่งเสวนาแลกเปลี่ยนทัศนะกันอยู่ที่ลานตะแบกข้างภาคฯ ปรากฏว่า พิมล ซึ่งมีอาการทางประสาท แต่งชุดทหารติดเครื่องหมายต่างๆเต็มหน้าอกเสื้อ ในมือถือปืนเด็กเล่นบุกเข้าไปยังกลุ่มนักศึกษาที่ลานตะแบก พร้อมกับส่งเสียงยิงปืนดังปัง..ปังๆ เป็นเหตุให้นักศึกษาแตกฮือไปคนละทิศละทาง จากนั้นพิมลก็กึ่งวิ่งกึ่งเดินหายไปทาง
ตึกคห กรรม
เมื่อเหตุการณ์สงบลงแล้ว ผมเดินไปหาสมพล และถามว่า “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น”
สมพลตอบว่า พิมล คึกคัก นักศึกษาเอกเราปีหนึ่ง หลังจากหายหน้าหายตาไปสองอาทิตย์ กลับมามีอาการทางประสาท ชอบแต่งตัวชุดทหารเที่ยวรบกวนเพื่อนๆไปตามเรื่อง สมพลบอกว่า
“พิมลมีอาการผิดปกติหลายอย่างครับ” เขาพูดโดยไม่ได้หันมาทางผม และสเก็ตภาพไปเรื่อยๆ
“อะไรบ้างล่ะ” ลองสาธยายมาให้ฟังซิ ผมเดินเข้าไปดูสมพลสเก็ตภาพใกล้ๆ
“เขาหลงผิด คิดว่าตนเองเป็นคนสำคัญ¬ อารมณ์แปรปรวน อยู่ดีๆก็หัวเราะหรือร้องไห้โดยไม่มีเหตุผล”
สมพลใช้มือจับดินสอเหยียดตรงเล็งไปที่หุ่นเพื่อตรวจสอบสัดส่วน จากนั้นเขาสาธยายต่อ
“บางครั้งพิมลไม่ยอมอาบน้ำอาบท่า ปล่อยให้เนื้อตัวสกปรก พูดคนเดียวและชอบเข้าไปรบกวนนักศึกษาที่กำลังทำกิจกรรมให้วุ่นวายกันไปหมด จนไม่มีใครอยากเข้าใกล้ ที่สำคัญเขาจะหูแว่ว ได้ยินเสียงแปลก ๆ หรือเห็นภาพหลอน ก็อย่างที่อาจารย์เห็นนั่นแหละ เขามักจะใช้ปืนเด็กเล่นทำท่ายิ่งโน่นยิงนี่ไปตามเรื่อง”
สมพลใช้ปลายดินสอกดเน้นบริเวณที่ต้องการให้ภาพเด่นชัด แล้วใช้มือถูบริเวณที่ต้องการให้ภาพกลมกลืนกัน
สมพลอธิบายถึงความดีของพิมลว่า “เขาไม่เคยอาละวาด ไม่ทำลายข้าวของ หรือทำร้ายใคร”
“เสร็จแล้วครับอาจารย์” สมพลยกภาพสเก็ตรถยนต์ให้ผมดู
“วิจารณ์ให้ผมหน่อยครับอาจารย์” สมพลลุกขึ้นยืนใกล้ๆเพื่อรอฟังการวิจารณ์
ผมมองภาพสเก็ตของสมพลแล้วพูดว่า “ไม่รู้ซิ ขึ้นอยู่กับว่าเธอต้องการเขียนภาพให้แตกต่างไปจากที่เห็นหรือต้องการเขียนภาพให้เหมือนจริง สัดส่วนถูกต้อง”
“แบบเหมือนจริงและสัดส่วนถูกต้องครับ” สมพลตอบอย่างมั่นใจ
“ถ้าเขียนแบบเหมือนจริง เธอดูนะ” ผมใช้นิ้วมือขีดเส้นตารางบนภาพเพื่อแสดงให้เขาเห็นว่า ล้อรถทั้งสี่ล้อนั้นไม่สัมพันธ์กัน และพูดเป็นเชิงติว่า “รถของเธอคงวิ่งไม่ได้หรอก”
สมพลมองตามที่ผมอธิบายและแสดงอาการให้รู้ว่าเข้าใจ
“ทำอย่างไรดีละครับอาจารย์”
“วิธีการหนึ่งในการเขียนภาพเหมือนจริงก็คือ การใช้ตารางคร่าวๆตรวจสอบความถูกต้องและต้องเขียนจากข้างในออกมาข้างนอก หมายความว่าเธอจะต้องเขียนโครงสร้างของตัวรถก่อนแล้วค่อยเขียนตัวถังรถ”
ผมหยุดพูดนิดหนึ่งก่อนที่จะบรรยายต่อไปว่า
“สิ่งสำคั¬ญ เธอต้องมองทุกสิ่งทุกอย่างให้ทะลุ” พูดจบผมก็เดินเข้าภาคไป
“ต้องมองให้ทะลุ..สมพลทวนคำ ใช่!.. แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่ทีแรกวะ!” สมพล บ่นพึมพำ
2
ภาควิชาศิลปะ เป็นแหล่งเรียนรู้ของนักศึกษาที่สนใจศิลปะ พวกเขาจะศึกษาเกี่ยวกับความงาม ความจริงและความดี นักศึกษาที่มาศึกษาที่นี่นอกจากได้ทำกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ทางด้านทฤษฏีแล้ว ยังได้รับประสบการณ์จากการฝึกปฏิบัติอย่างเข้มข้นอีกด้วย ดังนั้น ทุกปีจึงมีการจัดนิทรรศการเพื่อนำผลงานที่ได้จากการศึกษาฝึกปฏิบัติหรือผลงานที่สร้างสรรค์ตามความสนใจของตนเอง มาจัดแสดงเพื่อให้ผู้ที่สนใจได้ชื่นชมความงาม
สำหรับปีนี้เราจัดงานพร้อมกับงานกาชาดของจังหวัด เพราะเป็นงานที่มีคนมาเที่ยวเป็นจำนวนมาก เมื่อเดินผ่านไปผ่านมาก็จะแวะขึ้นไปดู ถือได้ว่าเป็นการส่งเสริมให้บุคคลทั่วไปได้เสพรสชาติของความงามอีกด้วย
ผมบอกนักศึกษาที่ปรึกษาว่า วันนี้ชั่วโมงโฮมรูม ให้ทุกคนไปที่หอประชุมจังหวัด เพื่อช่วยกันดูความเรียบร้อยของงาน เมื่อได้เวลานักศึกษาได้มารอกันอยู่ที่มุมห้องประชุม และเป็นเหมือนเดิมทุกครั้ง สิ่งที่ขาดไม่ได้ไม่ว่าเราจะไปจัดกิจกรรมกันที่ไหน เมื่อไร พิมล คึกคัก จะมาร่วมกิจกรรมกับเราด้วยเสมอ แกจะเดินไปเดินมา ทักคนโน้น คน นี้ไปตามเรื่องตามราว
ในระหว่างที่ผมกำลังสาละวนอยู่กับการเตรียมแผนสั่งงานให้นักศึกษาที่ยืนรวมกลุ่มรออยู่ที่มุมห้อง อยู่ดีๆพิมลก็เข้ามาหา เขาแสดงความเคารพและรายงานตัว
“ กระผม พลทหารพิมล คึกคัก มารายงานตัวต่อผู้บังคับบั¬ญชาครับผม”
ในขณะที่พิมล รายงานตัวอยู่นั้น ผมเหลือบไปทางนักศึกษาซึ่งจับกลุ่มกระซิบกระซาบกันอยู่ และกำลังดูว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมเดาได้ทันทีว่า “มันเป็นเกม” ต้องเป็นฝีมือของสมพล ก. ไก่ อย่างแน่นอน เร็วเท่าความคิด
ผมยืนตรงแบบทหารตามความรู้ที่เคยเรียน รด. มา และรับฟังรายงาน จากพลทหารพิมล คึกคัก ผู้ใต้บังคับบั¬ชา
เมื่อพลทหารพิมลรายงานตัวเสร็จ ผมพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำด้วยเสียงอันดังให้ได้ตามลักษณะของชายชาติทหารว่า
“ดีมาก พลทหารพิมล คึกคัก ขอให้ท่านรีบไปรายงานตัวที่ครูฝึกของท่านที่ยืนอยู่มุมตึกด้านโน้นโดยด่วน” ผมพูดพร้อมทั้งชี้มือไปที่กลุ่มนักศึกษาของผม
เมื่อได้รับคำสั่ง พิมลทำความเคารพ และหันกลับวิ่งเหยาะๆตรงแน่วไปที่กลุ่มนักศึกษาที่ยืนอยู่ ที่มุมห้อง
เมื่อนักศึกษาเห็นพิมล ดิ่งเข้าไปใกล้ ก็พากันแตกหือไปคนละทิศละทาง
ส่วนผม รู้สึกพอใจกับการแก้เกมนี้ได้ และหัวเราะ ฮึ ฮึ ฮึ ในลำคอ