เรื่องสั้น หัวใจเปื้อนชอล์ก ตอน “นักล่าสาว”

lions

จิปาถะ

เรื่องสั้น หัวใจเปื้อนชอล์ก ตอน “นักล่าสาว”

1

ครูสตางค์รู อดีตเป็นครูโรงเรียนในสังกัด อบต. หลังจากเกษียณอายุราชการ ก็ทำงานจักสานกระบุงตะกร้าขายเป็นงานอดิเรก ครูสตางค์รูเป็นคนอารมณ์ดีและรวยอารมณ์ขัน แถมยังเล่านิทานเก่งอีกต่างหาก แกจึงเป็นคนมีเสน่ห์ที่ใครๆก็ชื่นชอบ โดยเฉพาะเด็กๆ ชอบไปดูแกจักตอกสานกระบุงตะกร้า เพื่อหวังว่าแกจะเล่านิทานให้ฟัง

ครูสตางค์รูเป็นคนชอบอ่านหนังสือนิทาน เช่น นิทานอีสป  นิทานชาดก นิทานแอนเดอร์เซน นิทานของ ดร.ซุส นิทานพื้นบ้าน นิทานของสองพี่น้องตระกูลกริมม์ นิทานของตอนสตอย และเรื่อง แฮร์รี่ พอตเตอร์ ของ J.K.Rowling ฯลฯ

ครูสตางค์รูอ่านนิทานแล้วก็จะเอามาเล่าต่อ ปรับเรื่องราวให้เข้ากับสถานการณ์ ต่อเติมเสริมแต่งเอาตามใจชอบ  ซึ่งแก่ก็ทำแบบเดียวกับนักเล่านิทานทั่วไป โดยจับเรื่องโน้นมาชนกับเรื่องนี้ จนบางเรื่องก็ซ้ำกันจนไม่รู้ว่าเป็นนิทานของใครกันแน่

ครูสตางค์รูเป็นคนมีความจำดี มีจินตนาการ หรือที่เขาเรียกกันว่ามีพรสวรรค์ มีลีลาการเล่านิทานที่สามารถตรึงใจให้เด็กๆนั่งนิ่งฟัง ตาแป๋วไม่กระพริบทีเดียว

และเรื่องที่ครูสตางค์รูเล่าให้เด็กๆฟังในวันนี้ แกเอามาจากนิทานอีสป เรื่อง“นักล่าสาวกับสิงโต”

2

นักล่าสาวกับสิงโต

ครูสตางค์รูเล่าว่า  “กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว  คนและสัตว์สามารถสื่อสารกันได้  และกาลครั้งนั้นมีสาวโสดสองคนพี่น้อง เป็นคนในระดับหัวหน้าทั้งคู่  คนพี่ผิวขาว รูปร่างท้วมชื่อนางสาวแต้มและคนน้องผิวสีเดียวกัน รูปร่างผอมบางชื่อนางสาวแจ๊ดแจ๋

วันหนึ่งสองสาวโสดพี่น้องเกิดคิดอยากจะออกไปล่าสัตว์เพื่อเป็นการทดสอบสมรรถภาพของตนเองและอาวุธที่เพิ่งจัดหามา จึงได้สั่งให้ลิ่วล้อ “นางจุ๊ดจู๋” จัดเตรียมอุปกรณ์และเครื่องสำหรับเดินป่าให้เรียบร้อย

เมื่อถึงวันเวลาที่ได้กำหนดไว้  สองนักล่าสัตว์สาวสมัครเล่นกับลิ่วล้อ ก็ออกเดินป่า นางสาวแต้มสะพายปืนไรเฟิล Winchester Model 70 ขนาด .458 Winchester Magnum  เตรียมกระสุน .375 H&H Magnum ไปเพียบ  และที่เอวยังมีปืนพก “สวิฟต์” (Swift) ขนาด 9 มม. อีก 1 กระบอก

นางสาวแจ๊ดแจ๋ เป็นคนรูปร่างเล็ก เลยเลือกใช้ปืนลูกซองเดี่ยวไบคาล รุ่น IZH-18EM-M “Sporting” และปืนพก โคลท์ .38 ซุปเปอร์ 1 กระบอก ส่วนนางจุ๊ดจู๋ไปตัวเปล่าเพราะยิงปืนไม่เป็น”

3

ทั้งสามคนเดินคุยกันโขมงโฉงเฉงไปตลอดทางเดินป่า ซึ่งไม่ใช่ลักษณะของนักล่าสัตว์มืออาชีพ เพราะเอะอะโวยวายแบบนี้สัตว์ที่ไหนจะอยู่ให้ล่า แต่บังเอิญวันนั้นมีสิงโตแม่ลูกอ่อน กำลังให้นมลูกทั้ง 5 ตัวของมัน  เมื่อสิงโตแม่ลูกอ่อนต้องเผชิญหน้ากับสามสาวนักล่า  มันไม่รู้จะทำอย่างไรจึงทำเป็นใจดีสู้เสือนอนให้ลูกกินนมอยู่เฉยๆ

เมื่อสามสาวนักล่าสัตว์เห็นนางสิงโต  แจ๊ดแจ๋ก็ยกปืนขึ้นจะยิง แต่นางสาวแต้มห้ามไว้ เพราะยังอยู่ในระยะไกลเกินไป อีกประการหนึ่ง ปืนลูกซองยิงสิงโตไม่อยู่แน่ หมายความว่า สิงโตไม่ตายทันที อาจจะบาดเจ็บและวิ่งเข้าชาร์ตเอาได้ ฉะนั้นต้องใช้ปืนไรเฟิล แต่ก็ควรจะเข้าไปให้ใกล้กว่านี้

แจ๊ดแจ๋ลดปืนลงและออกความเห็นว่า “เราน่าจะแยกย้ายกันเข้าล้อมสิงโตไว้”  นางจุ๊ดจู๋ทำหน้าตาตื่นบอกว่า “อย่าทำอย่างนั้นเด็ดขาด เพราะอาจเผลอยิงเข้าใส่กันเองได้  ค่อยๆย่องเข้าไปให้ใกล้กว่านี้นะดีแล้ว”  ดังนั้นทั้งสามสาวนักล่าสัตว์ก็ค่อยๆย่องเข้าไปให้ใกล้สิงโตมากที่สุดเท่าที่จะใกล้ได้

เมื่ออยู่ในระยะ นางจุ๊ดจู๋ก็เห็นว่า สิงโตนั้นมีลูกอ่อนถึง 5 ตัว  จึงพูดกับนางสาวแต้มว่า “อย่าไปยิงมันเลย สงสารมันเถอะ มันมีลูกอ่อน ลูกสิงโตในเยาว์วัยก็เหมือนกับเด็กในเยาว์วัย  เป็นวัยที่บริสุทธิ์และงดงามของทั้งมวลสัตว์และมวลมนุษยชาติ”

“ว่าอย่างไรนะ” นางแต้มหันหน้ามาทางจุดจู๋

“เมตตามันเถอะ นึกถึงอกเขาอกเราบ้าง”

นางสาวแต้มทำตาเขียวใส่จุดจู๋  “ฉันเคยคิดเมตตาคนอื่นด้วยรึ ”

ท่าทางไม่สบอารมณ์ของนางสาวแต้ม ทำให้จุ๊ดจู๋ หน้าหงอยไป

จากนั้นนางสาวแต้มก็ยกปืนไรเฟิลขึ้นประทับ ยิงโป้งเข้าไปที่สิงโตแม่ลูกอ่อน   ปรากฏว่าลูกสิงโตทั้ง 5 ตัว ตายคาที่ ส่วนแม่สิงโตอาการบาดเจ็บสาหัส ดิ้นกระแด่วๆ กำลังจะตาย”

4

เมื่อครูสตางค์รู เล่ามาถึงตรงนี้ พวกเด็กๆก็อุทานขึ้นพร้อมกันว่า “นางนี่ใจร้ายจริงๆ”

ทำให้ครูสตางค์รูชะงักนิดหนึ่งแล้วเล่าต่อไปว่า

ก่อนตายสิงโตแม่ลูกอ่อนร้องถามนางสาวแต้มและพวกว่า

“ท่านยิงข้าและลูกข้าเพื่อประโยชน์อันใด”

นางสาวแต้มและแจ๊ดแจ๋ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “เพื่อทดสอบสมรรถภาพของพวกเรานะซิ”

สิงโตแม่ลูกอ่อนจึงย้อนว่า “ถ้ามีสิงโตบุกเข้าไปในบ้านท่าน และฆ่าพ่อแม่ของท่าน เพื่อทดสอยสมรรถภาพของสิงโตบ้างล่ะ ท่านจะรู้สึกอย่างไร”

“เราจะรู้สึกอย่างไรรึ” นางแต้มทวนคำ “ก็รู้สึกว่าแกกำลังจะตายอยู่เดี๋ยวนี้แล้วนะซิ”  จากนั้นก็พากันหัวเราะงอหาย

สิงโตแม่ลูกอ่อนนอนตาละห้อย หายใจละลวย ก่อนที่จะสิ้นลม  มันพูดออกมาด้วยเสียงแหบแห้งว่า

“น่าสงสารนะ ช่างไม่รู้เรื่องกรรมเรื่องเวรกันเสียเลย”

……..

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *