เรื่องสั้น หัวใจเปื้อนชอล์ก ตอน ห้ามบุกรุก 2

bdins

จิปาถะ

เรื่องสั้น  หัวใจเปื้อนชอล์ก  ตอน ห้ามบุกรุก 2

218

“จากที่เธอยกตัวอย่างมาเพื่ออธิบายถึงอาณาเขต “ห้ามบุกรุก” ของคนเสียยืดยาว และ สุดท้ายเธอก็กล่าวหาฉันว่า “บุกรุก” อาศรมจนได้  ที่นี้ ฉันขออนุญาต อธิบายให้เธอฟังบ้างนะ”

“ได้ เชิญเลยจ้ะ รู้สึกเธอเริ่มจะมีมารยาทขึ้นบ้างแล้วละ” คุณชวดแซว

นางแต้มอมยิ้มนิดๆ และแก้ต่าง ดังนี้

219

“ตัวอย่างที่เธอยกมาว่า  เมื่อเราไปสวนสาธารณะที่มีม้านั่งว่างอยู่หลายตัว บางตัวก็มีคนนั่งอยู่ เธอบอกว่า ตามมารยาทที่ดี เราไม่ควรไปนั่ง ม้านั่งตัวเดียวกับคนที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งก็ดี  แต่ฉันคิดว่า มันไม่เกี่ยวกับมารยาทอะไรเลย เพราะม้านั่งนั้นเป็นสมบัติสาธารณะ ทุกคนมีสิทธิที่จะนั่งได้อยู่แล้ว เมื่อม้านั่งนั้นนั่นได้มากกว่า 1 คน  เมื่อยังมีที่ว่างอยู่อีก  ทำไมฉันจะเข้าไปนั่งไม่ได้  มีข้อห้ามตรงไหน  ฉันก็มีสิทธิ์ที่จะใช้ม้านั่งสาธารณะเช่นเดียวกับคนอื่นนั่นแหละ ถ้าเขานั่งอยู่จนเต็มนั่งไม่ได้ แล้วนั่นแหละ ฉันจึงควรจะไปนั่งที่อื่น สิ่งที่เธอต้องพิจารณาก็คือ เราควรจะใช้ประโยชน์ของม้านั่งให้คุ้มค่า

จากที่กล่าวมา จะเห็นว่า การรักษามารยาท และกำหนดอาณาเขตของตนเองนั้น มีปัญหาอย่างมากเมื่อเวลาเข้าห้องประชุม เพราะทุกคนต่างก็จะนั่งอยู่ข้างหลัง ไม่มีใครยอมเข้ามานั่งข้างหน้า เห็นไหมล่ะ ถ้าเรารู้จักใช้ที่นั่งให้เป็นประโยชน์สูงสุด เราก็จะนั่งเรียงกันไป จากหน้าไปหลัง  คนมาก่อนก็นั่งหน้า คนมาทีหลังก็นั่งต่อๆกันไป  ไม่วุ่นวายดีด้วย   เท่าที่เคยเห็นมา บางครั้งประธานในที่ประชุมถึงกับต้องเชิญให้เข้ามานั่งข้างหน้าด้วยซ้ำไป”

220

“ส่วนอีกตัวอย่างหนึ่ง ที่ว่าเมื่อเราจำเป็นต้องเข้าไปกินอาหารในร้านที่เน้นการกินลูกเดียว ไม่ได้คำนึงถึงสุนทรียะในการกินแต่อย่างใด และให้ลูกค้านั่งรวมกันที่โต๊ะยาว ตามปกติถ้าเราจะเข้าไปนั่งร่วม เราก็ควรจะถามคนที่นั่งอยู่ก่อนว่า มีใครนั่งหรือเปล่า  ถ้าไม่มี เราจึงนั่ง สิ่งนี้เธอว่าเป็นมารยาทสังคม

แต่ฉันคิดว่า ตัวอย่างที่เธอยกมานั้น มันเก่าเกินไปเสียแล้ว ในสังคมไทยปัจจุบัน ร้านอาหารที่มีโต๊ะยาวนั่งกินอาหารร่วมกันอย่างนั้น เห็นมีแต่ใครๆก็เข้าไปนั่ง ไม่เห็นจะต้องขออนุญาตอะไรใครเลย  เขารู้กันดีอยู่แล้วว่า ร้านอาหารแบบนี้  ถ้าว่างก็นั่งได้เลย   กินเสร็จก็ลุกไป”

221

“ส่วนที่ว่าฉันบุกรุกพวกที่อาศรม ฉันก็ไม่เห็นมีใครว่าอะไร จะมีอยู่บ้างบางคนที่อาลัยอาวรณ์ เจ็บปวดรวดร้าว ว่ากันว่าอย่างนั้น  แต่เธออย่าลืมว่า บ้านเมืองมันต้องเจริญก้าวหน้าไป  ฉันไม่ใช่ผู้บริหารที่ไม่กล้าคิดกล้าทำอะไรนี่ ที่กล่าวหาว่าฉันบุกรุก เข้าไปในอาณาเขต พวกเขานั้น มันไร้สาระ  ประเด็นนี้มีอะไรโต้แย้งไหม คุณชวด”

“คงไม่มีหรอก  เพราะไม่มีใครบังคับคนที่จะไปทางโน้นให้กลับมาทางนี้ได้  แต่ที่ฉันพูดนั้น ส่วนหนึ่งฉันหมายความถึงว่า “เธอกำลังบุกรุกเข้าไปในอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ ของพระผู้เป็นเจ้าต่างหาก  ฉันเพียงแต่บอกเธอให้ระวังไว้เท่านั้นเอง”

……..

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *