ผลประโยชน์

toon 1

จิปาถะ
ผลประโยชน์
หลังจากที่ผมได้ วอล์คเอ้าท์ ในการประชุมคณาจารย์วิทยาลัยครูบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2531 แล้ว ดูเหมือนว่าผมจะกลายเป็นบุคคลสำคัญขึ้นมาทันตาเห็น อาจารย์ที่มีความเห็นต่างจากอธิการได้มาหาผมถึงภาควิชาฯเพื่อให้ผมเป็นพวก ซึ่งก่อนหน้านั้นไม่เห็นมีใครมา ดังนั้นที่ทำงานผมจึงกลายเป็นฐานที่มั่น ปักหลักต่อสู้กับอธิการวันชัยไปโดยปริยาย แกนนำรุ่นแรกๆ ก็มี รศ.โกวิท เชื่อมกลาง อ.ภูมินทร์ วีระภัทรานนท์ ผศ.วุฒินันท์ รามฤทธิ์ อ.วิรุฬ ไทรทอง อ.ไสว แกล้วกล้า อ. วิโรจน์ เอี่ยมสุข ผศ.นิรันดร์ กุลฑานันท์ แต่ไม่นานนักอาจารย์ที่ไม่เห็นด้วยกับการบริหารงานของอธิการก็ได้มารวมตัวกันมากขึ้นเป็นกลุ่มใหญ่
ส่วนรศ.วันชัย วัฒนกุล อธิการก็มิไม่ได้นิ่งนอนใจเหมือนกัน ท่านมาหาผมถึงภาควิชาฯ ชวนผมไปดื่มกาแฟที่บ้านท่าน ผมก็ไปกับท่าน ในขณะที่เดินออกจากภาควิชาฯ ท่านปรารภกับผมว่า ถนนนี้(ถนนหน้าภาควิชาฯ)น่าจะเทคอนกรีตนะ ผมเฉยๆไม่ได้พูดอะไร เพราะผมไม่ได้ต่อสู้กับท่านเพื่อจะเอาถนนคอนกรีต ที่น่าสังเกตตรงนี้ก็คือ ถึงวันนี้ ถนนหน้าภาควิชาศิลปะก็ยังเป็นถนนลูกรังอยู่เหมือนเดิมครับ
ประเด็นที่ท่านอธิการวันชัยชี้แนะกับผมก็คือ กลุ่มอาจารย์ที่มาร่วมกับผมเหล่านั้นใช้ผมเป็นเครื่องมือ ผมตอบท่านไปทันทีว่า ผมทราบครับ แต่ผมยอมเป็นเครื่องมือเพราะผมได้ประโยชน์ ตั้งแต่วันนั้นท่านก็ไม่เคยมาหาผมอีกเลย
ที่แน่ๆ ก็คือ ในปี พ.ศ. 2531 นั้น อาจารย์วิทยาลัยครูบุรีรัมย์ได้แบ่งแยกออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ กลุ่มแรก อาจารย์ที่ต่อต้านอธิการวันชัย กลุ่มที่สองอาจารย์ที่สนับสนุนอธิการวันชัย ส่วนกลุ่มที่สาม เป็นพวกจ่าเฉยคือยังไม่ยอมเข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดทำตัวเป็นกลาง
อย่างไรก็ตามกลุ่มอาจารย์ที่รวมตัวกันเพื่อต่อต้านอธิการนั้น ยังสามารถแบ่งออกเป็นพวกๆตามเป้าหมายของแต่ละคนที่มารวมกัน พวกหนึ่งทำเรื่องนี้เพื่ออุดมการณ์ในการรักษาความถูกต้องชอบธรรม ไม่หวังผลประโยชน์ใดๆ พวกที่สองคือพวกที่เสียผลประโยชน์และพวกที่สามคือพวกแสวงหาผลประโยชน์ ซึ่งทุกคนในกลุ่มรู้ดีว่าที่รวมตัวกันนั้นใครต้องการอะไร แต่ไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้ เพราะเป้าหมายหลักของพวกเราเหมือนกัน คือ ต่อต้านอธิการ ดังนั้นสิ่งแรกที่กลุ่มต้องรีบดำเนินการก็คือ การหาแนวร่วม

 

Comments are closed.