นกกระจาบ

nokjab

จิปาถะ
นกกระจาบ
รองศาสตราจารย์ ดร.M.D ข้าราชการบำนาญระดับ 9 ที่ผมเคารพนับถือ ได้เขียนเล่านิทานเรื่องนกกระจาบ ให้ฟัง ผมเห็นว่ามีเนื้อหาที่เป็นประโยชน์และมีคุณค่าอย่างยิ่งต่อการพัฒนาองค์กร ถ้าทุกคนคิดได้แบบนกกระจาบ นอกจากนั้นท่านยังได้กรุณาเสนอแนวทางการวิเคราะห์เพื่อประเทืองปัญญามาด้วย ผมขอยกมาทั้งหมดเลยนะครับ และขอกราบคารวะท่านอย่างสูงครับ
นกกระจาบสามีภรรยาคู่หนึ่ง ทำรังอาศัยอยู่ที่ต้นไทรใหญ่ริมแม่น้ำ อยู่มาวันหนึ่งไฟไหม้รังของนกกระจาบ นกกระจาบทั้งคู่เห็นไฟไหม้รังก็ช่วยกันดับไฟ ใช้ความสามารถที่มีอยู่ทั้งหมด คือปากอมน้ำ ปีกก็ซับน้ำ จากแม่น้ำไปดับไฟ บินกลับไปกลับมาหลายร้อยเที่ยวไฟก็ยังไม่ดับ เทวดาเห็นเข้าจึงกล่าวกับเจ้านกกระจาบคู่นั้นว่า “เจ้านกกระจาบเอ๋ย ปากและปีกของเจ้านำน้ำไปดับไฟได้นิดเดียว เจ้าจะดับไหวหรือ” เจ้านกกระจาบเมื่อถูกเทวดาถามดังนั้น จึงร้องตอบเทวดาว่า “จะดับไหวหรือไม่เราก็ต้องพยามอย่างสุดความสามารถที่จะดับไฟ แม้ต้องดับไฟกระทั่งตัวตายก็ต้องดับ เพราะมันเป็นรังของเรา” นิทานก็จบลง
แนวทางการวิเคราะห์เพื่อประเทืองปัญญามีดังนี้
1. ปัญหาของเราเราต้องแก้ไขแม้ยากลำบากเพียงใดก็ต้องแก้
2. ปัญหาหน่วยงานของเรา เราต้องช่วยกันแก้ เพราะมันคือบ้านของเรา
3. ปัญหา หรือความทุกข์ที่เกิดขึ้นในใจ เหมือนไฟที่กำลังไหม้รังของเราแม้แก้ยากมีปัญญาน้อยก็ต้องแก้ปัญหาหรือหาทาง ดับทุกข์ในใจให้ได้ เพราะดับทุกข์ในใจไม่ได้ก็ต้องตายทั้งเป็น คือต้องอยู่อย่างชีวิตตายซาก มีชีวิตแต่ไร้ชีวา การดับทุกข์ในใจจึงต้องพยายามอย่างยิ่งยวดและต้องดับให้ได้ก่อนตัวตายจะได้ สบายนิรันดร์ อยู่ที่ไหน กับใคร เวลาใด ก็มีความสุข เพราะไฟทุกข์ถูกดับไปได้สิ้นเชิงแล้ว

 

Comments are closed.