จิปาถะ เหตุเกิดที่ ม.สารขัณฑ์ (ไม้นวม)
6
มีคำสองคำที่น่าสนใจ คือ คำว่าปัญญาญาณ และคำว่า ปรีชาญาณ 1) ปัญญาญาณ เป็นปัญญาหยั่งรู้ซึ่งผุดเกิดขึ้นจากจิตที่ว่างจิตที่สงบ 2) ปรีชาญาณ คือ ปัญญาเกิดโดยอาศัยการคิดด้วยสมอง ทั้งสองสิ่งนี้ คือสิ่งที่คนดี คนมีปัญญา เขาปฏิบัติกัน เพราะพวกเขาสามารถหยั่งรู้หรือสำนึกรู้ได้ถึง ฐานะของตนเองว่า ตนเองนั้นอยู่ในฐานะอะไร ควรทำสิ่งใดหรือไม่ควรทำสิ่งใด เป็นต้น
แต่ปรากฏว่า นางแต้ม ตัวละครของผม หรือรักษาการอธิการบดี(เถื่อน) รวมทั้งสภามหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ ขาดทั้งปัญญาญาณและปรีชาญาณ และได้ร่วมกันกระทำการอันไม่สมคารหลายประการ จะด้วยเจตนาหรือไม่เจตนาเนื่องจากรู้เท่าไม่ถึงกาลก็ตาม
และต่อมาได้มีคนทักท้วงว่าสิ่งที่ได้กระทำไปแล้วนั้นมิควร ก็ต้องยอมรับผิดและยอมรับโทษ อย่างน่าชื่นตาบาน เรียกกว่ามีความเป็นสุภาพสตรีหรือสุภาพบุรุษที่งดงาม
แต่ถ้าหากยังดื้อรั้น บิดเบือนและพยายามโยนความผิดให้คนอื่น อันนี้ไม่เกี่ยวกับปัญญาญาณ หรือปรีชาญาณ แต่เกี่ยวกับสันดานที่เลวระยำ
กรณี ที่มีปัญหาเรื่องป้าย และปริญญาบัตรปรากฏว่ามีผู้หวังดีท่านหนึ่ง ได้ออกมาเตือนด้วยเจตนาดีว่า ให้ยอมรับผิดเสียแต่โดยดี และรีบปรึกษาหารือกันดำเนินการแก้ไขโดยด่วน ก่อนที่เรื่องราวจะบานปลายใหญ่โตไปกว่านี้อีก เชื่อคำแนะนำของท่านที่เตือนมาเถอะครับ หนักจะได้เป็นเบา ผมรู้สึกหวาดเสียวจริงๆ ด้วยความปรารถนาดีครับผม
….