วันจันทร์ที่ 11 มกราคม 2564
จิปาถะ เรื่องสั้น โจรขโมยเงินเดือน (เด็กมันเจ็บปวดนะ)
11
เราคงพอจะเข้าใจได้ว่า ทำไมพนักงานมหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ส่วนใหญ่จึงทนอยู่กับนางแต้ม รักษาการอธิการบดี ที่ไม่ชอบด้วยกฏหมาย ที่โหดร้าย กักขฬะ และดื้อด้านหน้าไม่มียางอายอยู่ได้เป็นนานสองนาน ก็เพราะพวกเขาจะไม่มีทางเลือก “คุณอยากจะทำงานหรือส่าตกงานละ? มันไม่สนุกหรอก ถ้าต้องออกจากงาน ครอบครัวเราล่ะ จะอยู่อย่างไง? ทู่ซี้ไปดีกว่า เพราะอย่างไรเสียเวลาก็จะแก้ไขตัวปัญหาต่างๆได้ด้วยตัวมันเอง”
“แล้วพวกครูบาอาจารย์เก่าๆที่เกษียณอายุราชการไปแล้วละ” “อ๋อ! พวกเขาก็เอาใจช่วยอยู่นะ ก็ทำเท่าที่ทำได้ เพราะทุกคนก็อายุมาก ลำพังดูแลสุขภาพตัวเองก็แย่อยู่แล้ว ยายังลืมกินเลย แล้วจะไปช่วยอะไรใครได้”
“เอาอย่างนี้ดีกว่า” มีเสียงสรุป “ปัญหาจริงๆมันอยู่ที่ใคร”
อ๋อ! ปัญหาจริงๆอยู่ที่
1.เพราะสภามหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ คือไม่ทำอะไรเลย ก็คงเพราะกระอักกระอ่วนใจ กลืนไม่เข้าคลายไม่ออก เพราะปัญหามันลึกลับซับซ้อนมากมาย มันไม่ง่ายอย่างที่คิด 2.ปัญหาอยู่ที่ตัวนางแต้มเอง ตรงนี้รู้กันทั่วไปแล้ว ว่านางกระสันที่จะเป็นอธิการบดีไปตลอดชีวิต นางจะทู่ซี้อยู่จนวาระสุดท้ายนั่นแหละ
3.หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ไม่ทำอะไรเหมือนกัน อ้างแต่ว่า มหาวิทยาลัยเป็นนิติบุคคล เราเข้าไปก้าวก่ายมากไม่ได้
4.ประชาชนในพื้นที่ เขาไม่สนใจหรอก เสียเวลาทำมาหากินของเขา และเห็นว่าครูบาอาจารย์เป็นปัญญาชน ขืนหลงเข้าไปส่งเดชดีไม่ดี จะถูกน็อคตั้งแต่ยกแรก
5.พวกหมานาย ใช่แล้ว พวกนี้แหละสำคัญ เป็นตัวการใหญ่ ที่สนับสนุนนางแต้ม
ถ้าหากพวกเขาไม่ยอมร่วมมือกับนางแต้มเสียอย่าง นางจะอยู่ได้อย่างไร แต่เพราะพวกหมานายขาดสำนึกสาธารณะ เอาแต่ประโยชน์ตนเป็นใหญ่ ยินดีรับใช้ทั้งๆที่รู้ว่านางแต้มเป็นรักษาการอธิการบดีเถื่อน”
“ก็ไม่ว่ากันครับ แต่อยากให้ลองตั้งสติพิจารณาดูอีกทีนะครับว่า การร่วมมือกับนางแต้มทำร้ายเพื่อนร่วมงานนั้นถูกต้องหรือไม่ เดี๋ยวนางแต้มก็ไปแล้ว เราจะอยู่กับเพื่อนให้เป็นสุขได้อย่างไร อย่าให้นามสกุลของท่านเป็นที่เกลียดชังของพวกเขาเลย สงสารลูกหลานเวลาไปโรงเรียนจะไม่มีใครคบค้าสมาคมด้วย เด็กมันเจ็บปวดนะครับ ถ้าไม่มีใครคบ”
“อุ้ยตาย! น่ากลัวจัง”
…