คนหูหนวก

drink

จิปาถะ
คนหูหนวก

เมื่อตอนเด็กๆนั้น ผมก็เหมือนเด็กอื่นๆทั่วไป คือเป็นเด็กดื้อ ชอบฝ่าฝืนกฎเกณฑ์และไม่ค่อยยอมฟังพ่อแม่ บางครั้งยังอาละวาดเสียด้วย เขาว่ามันเป็นพัฒนาการปกติของเด็กๆ แต่ถ้าเกินเลยไปเนื่องจากพ่อแม่ตามใจจนเป็นปัญหาสังคมก็ถือว่าผิดปกติ และจะพัฒนาไปสู่ปัญหาด้านบุคลิกภาพเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่
“สมาคมจิตแพทย์อเมริกันกำหนดการวินิจฉัยว่าเด็กมีความผิดปกติแบบดื้อดึงและต่อต้านเมื่อมีอาการต่อไปนี้บ่อยๆอย่างน้อย 4 อาการ จาก 8 อาการ ติดต่อกันเป็นเวลานาน 6 เดือน คือ 1) ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ 2) เถียงและทะเลาะกับผู้ใหญ่ 3) ดื้อดึง ท้าทาย และฝ่าฝืนคำสั่งของผู้ใหญ่และกฎเกณฑ์ 4) ตั้งใจ รบกวนผู้อื่น 5)โยนความผิดให้คนอื่น 6) อารมณ์เสียและโกรธง่าย 7) โกรธและไม่พอใจ 8) แกล้งและแก้แค้นอาฆาตพยาบาท(www.cumentalhealth.com/รอบรู้เรื่องสุขภาพจิตเด็ก/เด็กดื้อ.html) (2 กุมภาพันธ์ 2558)

ผมเป็นเด็กโชคดี ถึงแม้ว่าแม่ผมจะเป็นคนโบราณไม่รู้หนังสือ แต่เวลาผมดื้อ ผมมีอาการครบทั้ง 8 อย่างตามที่กล่าวมา เช่น เอาแต่ใจตัวเอง อยากได้อะไรก็จะเอาให้ได้ แม่บอกว่าไม่ผมก็ไม่ยอมฟัง แม่ก็เลยใช้ไม้เรียวฟาดเข้าให้ โดนเข้าไปทีสองทีก็หายดื้อเด็ดขาด และตั้งแต่นั้นมา คำพูดของแม่ก็เป็นสิทธิ์ขาด ไม่ คือไม่ ไม่มีความหมายเป็นอย่างอื่น และไม่เรียวนี่เองที่ทำให้ผมหูไม่หนวก

แต่เด็กบางคน พ่อแม่ตามใจ ปล่อยให้ความดื้อดึง ไม่ยอมฟังใคร พัฒนาไปจนเป็นบุคลิกภาพที่น่าเกลียด โตเป็นผู้ใหญ่แล้วก็แก้ไม่ได้ ดังนิทานเรื่อง “คนหูหนวก” ดังนี้

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเศรษฐีชาวชนบทคนหนึ่ง มีลูกชายคนเดียว ชื่อ หัวหอม ท่านเศรษฐีต้องการให้หัวหอมได้รับการศึกษาสูงที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ จึงได้ส่งให้ไปศึกษาในกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ยังเล็กๆ ยี่สิบกว่าปีต่อมาหัวหอมก็จบการศึกษาและเดินทางกลับบ้านเกิด หัวหอมเป็นคนถือตนว่ามีความรู้ ไม่ว่าใครจะแนะนำสิ่งใดเขาก็ไม่ฟัง แม้แต่พ่อของเขาเองเขาก็ไม่เชื่อ
ฝ่ายเศรษฐีนั้นรู้ว่าลูกชายของตนเปลี่ยนไป แต่ด้วยความรักและดีใจที่ลูกกลับมาบ้าน จึงไม่ได้ว่ากล่าวอะไร
ตามปกติหัวหอมจะทำสีหน้าเรียบเฉย รู้สึกรังเกียจผู้คนที่อยู่รอบๆตัว แม้แต่ญาติของตนก็ไม่ยอมเสวนาด้วย
วันหนึ่งหัวหอมเดินไปตลาด ในระหว่างทางเขาได้พบชายชราคนหนึ่ง ทักเขาว่า
“พ่อหนุ่มเอ๋ย เจ้าไปเรียนอะไรมา เล่าให้ลุงฟังบ้างซิ”
หัวหอมไม่สนใจ เขาเดินผ่านไปอย่างไม่แยแส
ชายชรารำพึงในใจว่า “น่าเสียดายนะ ไปเรียนมาตั้งหลายปี กลับมาหูหนวกไปเสียได้”

สามวันต่อมาหัวหอมอยากเข้าไปชมนกชมไม้ในป่า เขาเดินผ่านหญิงวัยกลางคน ที่ทักขึ้นว่า
“พ่อหนุ่ม อย่าเดินเข้าไปทางนั้นนะ อันตราย ไปอีกทางหนึ่งจะดีกว่า”
แต่หัวหอมไม่สนใจ
วันต่อมาเศรษฐีได้รับข่าวร้ายว่า หัวหอมบุตรชายของเขาถูกโจรฆ่าตายเสียแล้ว
หญิงกลางคนเล่าให้ท่านเศรษฐีฟังว่า นางได้เตือนเขาแล้วว่า ทางที่จะเข้าไปนั้นมีอันตราย มีพวกโจรห้าร้อยอาศัยอยู่ และเสริมว่า“ฉันไม่รู้ว่าเขาหูหนวก ถ้ารู้ก็จะเข้าไปดึงมือห้ามเขาไว้ ฉันเสียใจด้วยนะ ท่านเศรษฐี”
ท่านเศรษฐีส่ายหน้า กล่าวกับหญิงกลางคนนั้นด้วยน้ำตาซึมว่า
“ลูกชายของฉันไม่ได้หูหนวกหรอก เขาเป็นคนหูดี เพียงแต่เขาไม่เคยฟังใครเท่านั้นเอง”
ดูซิครับ เหมือนนางแต้มอย่างไงอย่างนั้น ไม่เคยฟังใครเลยจริงๆ
……
พ. ศรีสมิต.(2546).นิทานก่อนนอนสอนใจคุณหนู.กรุงเทพ :ไพลิน.

Comments are closed.