เรื่องสั้น เหตุเกิดที่ ม.สารขัณฑ์ (ภูเขาแห่งความโง่)

เรื่องสั้น  เหตุเกิดที่ ม.สารขัณฑ์ (ภูเขาแห่งความโง่)

9

ผู้สันทัดกรณีได้แสดงความเห็นมาว่า  “เรื่องสั้น เหตุเกิดที่มหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ สลับซับซ้อน ไม่แพ้คดี บอส กระทิงแดง เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับ “ทฤษฎีสมคบคิด” ใกล้จะถึงจุดจบ โดยที่ผู้เกี่ยวข้อง จะต้องถูกดำเนินคดีอาญากันทุกคน เพียงแต่ที่มหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ ตัวละครที่จะ ถูกลงโทษจำคุก คนละหลายคดี มากกว่าคดีของ บอส เพราะว่าแต่ละคน ได้กระทำผิด ต่างกรรมต่างวาระ ไว้มากมายและเป็นระยะเวลานาน เพราะการขาดจิตสำนึกและ ความโง่เขลาของแต่ละคน ที่คิดไม่ได้ว่า จะแก้ปัญหาอย่างไร เมื่อรวมความโง่เขลาของแต่ละคนแล้ว ก็จะเกิด เป็น        “ภูเขาแห่งความโง่เขลา” ซึ่งยากที่จะขุดไปถึง จิตใต้สำนึกได้  ดังนั้นจึงทำให้ยากแก่การแก้ไขพฤติกรรม ให้เป็นคนดีได้  ถึงแม้ จะมีจิตสำนึกเล็กน้อยก็ตาม” 

ผู้สันทัดกรณีแสดงความเห็นต่อไปว่า “อยากจะแนะนำทางสว่าง เพื่อให้ กรรมการสภามหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ ได้พบกับทาง ที่จะยุติปัญหาต่างๆ เป็นการถาวรไว้ก่อน โดยการมีมติให้นางแต้ม ยุติปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเท่ากับว่าเป็นการ ยุติ การกระทำมิชอบด้วยกฎหมายของนางแต้มต่อไปอีก 

ส่วนเรื่องราว ที่กระทำ โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายก่อนหน้านี้ของนายกสภามหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ หรือกรรมการสภามหาวิทยาลัย  ก็พยายามหาทางแก้ไข โดยการทำความเข้าใจกับประชาคม การเยียวยากับผู้เสียหายที่ได้รับความเดือดร้อนหรือการไปรับสารภาพต่อศาล เพื่อขอความเมตตาจากศาล ให้ลงโทษในสถานเบา หรือให้รอการลงโทษ (ที่ชาวบ้านพูดว่ารอลงอาญา) หากไม่ดำเนินการตามที่แนะนำ ก็คงหนีไม่พ้น การถูกลงโทษ ได้ติดคุกสมอยากแน่นอน.

จากความคิดเห็นที่นำเสนอมา ผมว่าเป็นทางออกที่สวยงามมากสำหรับสภามหาวิทยาลัยสารขัณฑ์  เพราะอย่างน้อยก็ได้ ผ่อนหนักให้เป็นเบาได้  ข้อสำคัญจะ“ฟัง”กันหรือเปล่าเท่านั้น

มีเสียงกระซิบเบาๆจากกรรมการสภาฯเพราะกลัวนางแต้มได้ยินว่า ฟังครับ แต่กลัว…กลัวนางแต้มจะบีบเอา  เพราะเพียงแค่เห็นหน้านางเท่านั้น ก็ขี้หดตดหายเสียแล้ว

…..

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *