เรื่องสั้น เหตุเกิดที่ ม.สารขัณฑ์ (กลมดิ๊ก)

“อาจารย์ครับ ผมไปดูภาพถ่าย เมื่อวันที่ 4 ปี 2561 วันที่นางแต้มไปแจ้งความที่ สภ. สข. (สถานีตำรวจภูธร สารขัณฑ์) มาแล้ว เป็นอย่างที่อาจารย์ว่าจริงๆ นางแต้มโกรธมาก โกรธจนหน้าเขียว ผมว่าตอนนั้นสัญญาณชีพของนางน่าจะถึง 200 มม.ปรอท ไม่ช๊อคไปก็ถือว่าบุญแล้ว แถมใส่ชุดเก่งเสียด้วย สภ.สข. จึงร้อนระอุ ยังกับยืนอยู่กลางแดดจ้า

ส่วนที่ว่า นางกลัวจะไม่ได้เป็นอธิการบดี ก็น่าจะจริง เพราะนางยืนยันมาตั้งแต่แรกแล้วว่า จะขอเป็นอธิการบดีฯสมัยเดียว ตามแผนที่ตกลงร่วมกันไว้ คือ เมื่อครบ 1 สมัย ก็จะเปิดทางให้เจ้า ไวรัส Kovis หรือ ไอ้เวรตะไล กลับมาเป็นใหม่อีก แต่เมื่อนางแต้มได้เป็นอธิการบดีจนครบ 1 สมัยแล้ว รู้สึกชอบมาก สนุก และหลงติดอยู่กับอำนาจวาสนา และพวกสอพลอวิสม์ (ลัทธินิยมการสอพลอ) ดังนั้น เจ้าไวรัส Kovis หรือไอ้เวรตะไล จึงหลังหักอย่างไม่เป็นท่า เจ็บสุดๆ ซึ่งมันน่าจะกระอักเลือดตายแบบจิวยี่นะ หรือไม่ก็เดี่ยงและมรณังแบบไอ้ดำ ไก่ชน

เมื่อจัดการสะกัด เจ้าไวรัส Kovis หรือไอ้เวรตะไลแล้ว ทุกอย่างก็น่าจะราบเรียบ เพราะได้คุมสภาฯไว้หมดแล้ว แต่ก็อย่างว่าแหละ อย่างที่จิวยี่ว่าไว้ “เทพดาองค์ใดหนอซึ่งให้เราเกิดมาแล้ว เหตุใดจึงให้ปัญเจริญ และหญิงผู้กล้า มาเกิดด้วยเล่า ผลก็คือ “ตะรางจึงอยู่แค่เอื้อม”

แต่นั่นแหละ การจะจัดการนางแต้ม ให้เตลิดเปิดเปิงไปก็ไม่ง่ายนัก เพราะนางแต้มควบคุมทุกคนด้วยการเลี้ยงดูปูเสื่อให้อิ่มหมีพีมันกันทั่วหน้า ดูแต่ละคนซิ รูปร่างอ้วนท้วนสมบูรณ์
“กลมดิ๊ก”ยังกับหมูออมสิน ใบหน้าก็กลมบ๊อกจนตาแทบปิด เช่น นางวันนาม และ นางพรดำ เป็นต้น

ส่วนเรื่องเงินทอง เขาว่านางมีเป็นหลายล้าน โกยลูกเดียว คงเตรียมเอาไปใช้ในคุกอย่างแน่นอน เพราะนางคิดว่า “ติดคุกมันสบาย”
….