จิปาถะ เรื่องสั้น โจรปล้นเงินเดือน (วีรชน)

วันอาทิตย์ที่ 14   มีนาคม   2564

จิปาถะ เรื่องสั้น โจรปล้นเงินเดือน (วีรชน)

14

คม หักศอก นั่งอยู่ริมลำธาร สายตาเพ่งมองไปที่กระแสน้ำตรงหน้า นิ่งอยู่อย่างนั้น เป็นการเจริญสมถกรรมฐานโดยตั้งใจเพ่งดูน้ำเป็นอารมณ์ ที่เรียกว่า “อาโปกสิณ” เพื่อให้จิตสงบ กระแสน้ำที่ไหลเอื่อยๆ เชื่องช้า เนิบนาบ ไม่อาทรร้อนใจอะไรกับใคร ไม่ยึดติดกับเป้าหมาย  ไม่ยึดติดกับกาลเวลา และไม่ยึดติดกับรูปลักษณ์ใดๆ เพราะมันเป็นเพียงสิ่งชั่วคราว หากมีสิ่งใดกรีดขวางก็เลี่ยงหลีกไปอย่างนอบน้อม เป็นวิถีแห่งความสุขสงบ

คม หักศอก หยิบก้อนหินใกล้ๆบริเวณที่เขานั่ง  กว้างไปที่ลำธารน้ำสุดกำลัง  เขาสบถกับตัวเอง ฉันจะไม่หยุดหรอก  เพราะการที่สภามหาวิทยาลัยสารขัณฑ์รวบรัดตัดตอนส่งชื่อนางแต้มเพื่อขอโปรดเกล้าฯ บงบอกว่า ภาระกิจของฉันยังไม่เสร็จสิ้น ฉันจึงจะไม่หยุด  ฉันจะไม่เนิบนาบเชื่องช้า ฉันจะต้องอาทรร้อนใจ เมื่อเพื่อนพร้องถูกรังแก เป้าหมายของฉันคือกำจัดคนไม่ดีให้พ้นไป และจะต้องจัดการให้หมดไปในเร็วๆวันนี้ หากมีสิ่งใดกรีดขวาง ก็จะกำจัดเสียให้สิ้นซาก และนี่คือวิถีแห่งวีรชน

เราไม่รู้ว่า จะกำจัดสิ่งชั่วร้ายที่แฝงตัวอยู่ในรูปของฝ่ายบริหารที่กักขฬะ ซึ่งประกอบด้วยสภามหาวิทยาลัย และนางแต้มรักษาการอธิการบดี  ซึ่งร่วมมือกันกระทำการทุกอย่างโดยไม่คำนึงว่าจะถูกกฏหมายหรือไม่ เพื่อซื้อเวลาให้ได้อยู่ในตำแหน่งนานที่สุดเท่าที่จะนานได้ และหวังจะวางรากฐานให้แน่นหนามั่นคง ด้วยการบรรจุพวกพ้องเข้ามาเป็นฐานเพื่อการดำรงอยู่ และถ้านางได้รับการโปรดเกล้าฯให้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีอีก 4 ปี การนำมหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ออกนอกระบบเพื่อยึดครองมหาวิทยาลัยของรัฐ เข้าสู่ระบบครอบครัวของตนเอง โดยไม่ต้องลงทุนอะไรเลย ซึ่งเรื่องนี้ก็อาจจะเกิดขึ้นได้

จากนั้นก็จะ “กระทำการบังอาจ” เลียนแบบอธิการบดีมหาวิทยาลัยส่วนกลางแห่งหนึ่งที่ “กระทำการบังอาจอย่างมาก”  กล่าวคือ เมื่อนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบแล้ว  ก็เปลี่ยนทั้งชื่อมหาวิทยาลัย และตราสัญลักษณ์ซึ่งเป็นพระราชลัญจกร ที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ช่างกักขฬะเสียเหลือเกิน เรื่องนี้ไม่มีใครใส่ใจ แต่สำหรับผม ขอสาบแช่ง “มันอ้ายอีผู้ใด กระทำการเยี่ยงนี้ สมควรที่จะต้องถูกดำเนินคดีตาม ม.112 ให้เป็นเยี่ยงอย่างสืบไป”

ก็เพียงแต่คิดนะครับ อย่างไรที่มหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ ก็อย่าให้ถึงขนาดเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนตราสัญญลักษณ์ที่เป็นพระราชลัญจกร ของพระองค์ท่าน  อย่างที่เจ้าปัญญาอ่อนแถวซังฮี้ บังอาจกระทำเลย  ผมรับไม่ได้จริงๆ   เรื่องนี้อัดอั้นมานานแล้ว ครับผม

….

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *