จิปาถะ เรื่องสั้น หัวใจเปื้อนชอล์ก “คำปรารภ”

จิปาถะ  เรื่องสั้น หัวใจเปื้อนชอล์ก “คำปรารภ”

หลังจากที่ผมจบ หัวใจเปื้อนชอล์ก เรื่องสั้นอิงเหตุการณ์ปัจจุบัน เกี่ยวกับนางแต้ม ผู้บริหารของผม ที่เขียนต่อเนื่องกันมายาวนานมากตั้งแต่ต้นปี 2014 โน่น ถึงตอนนี้ก็เกือบ 5 ปี ช่วงแรกๆโพสต์ต่อเนื่องกันแทบทุกวัน รวมแล้วมากกว่า 500 ตอน แต่ไม่ค่อยต่อเนื่อง เพราะไม่มีเค้าโครงเรื่องแน่นอน เขียนไปตามสถานการณ์ ถึงแม้จะมีคนอ่านไม่มากนัก แต่ผมก็ดีใจที่ได้เขียน และอดคิดถึงคุณูประการของนางแต้มไม่ได้ ที่ทำให้ผมเขียนเรื่องสั้นได้มากมายขนาดนั้น ตามหลักของพุทธศาสนานิกายเซนที่ว่า “เพราะเป็นเช่นนั้น จึงเป็นเช่นนี้”

ผมจบเรื่องของนางแต้มตามความเชื่อเรื่องกรรมในพระพุทธศาสนา “กัมมุนา วัตตติ โลโก” สัตว์โลกทั้งหลายย่อมเป็นไปตามกรรม เพราะเมื่อนางได้ทำกรรมอะไรไว้ ก็จะได้รับกรรมนั้นอย่างแน่นอน ไม่มีทางที่จะหนีรอดไปได้ แต่กรรมเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และใช้เวลายาวนานมากกว่าจะเห็นผล ดังนั้น เพื่อให้ได้เห็นผลโดยเร็ว ก็ต้องจินตนาการเอาเอง

ผมจบเรื่องของนางแต้ม ด้วยผลกรรมแต่เพียงบางเบา บรรยายสั้นๆให้เห็นว่า เพียงแค่ช่วงเวลาน้อยนิด นางนั้นได้สร้างความเกลียดชังให้กับผู้คนเป็นจำนวนมาก โดยใช้สัญลักษณ์ของไข่ดิบที่เตรียมมาขว้างปาไปที่ร่างของนางแต้มที่กำลังล้มลงต่อหน้า คม หักศอก และเพื่อชี้ให้เห็นชัดลงไปอีกว่านางเป็นคนเลว คนโหด คบไม่ได้ มีลักษณะเหมือนงูพิษ ผมเลยให้ คม หักศอก นึกถึงนิทานอีสป เรื่อง ชาวนากับงูเห่า แล้วก็เดินจากไป ผมได้บรรยายแต่เพียงเสียงร้องเท่านั้น ไม่ได้บรรยายถึงความทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวดที่ถูกขว้างด้วยไข่ หรือการดิ้นทุรนทุรายของนางแต้มในกองไข่แตกที่เหลวเละเหนียวเหนะ ที่ค่อยๆแห้งเป็นไข่ดาวเมื่อโดนแดด และไม่ได้บรรยายถึงกลิ่น หรือหน้าตาของนางที่ตื่นตระหนกและสิ้นหวัง ดิ้นกระแด๋วๆในโคลนเลนเหมือนปลาในบ่อวิดปลาที่กำลังแห้ง ผมจบแบบสั้นๆจึงปรากฏว่า มีผู้อ่านแสดงความคิดเห็นมาว่า “ป้าดโธยังไม่โหดร้ายเหมือนที่เธอได้สร้างกรรมไว้ครับ”

ความจริงผมเขียนตอนจบไว้หลายแบบ เช่น “ฝูงแร้งที่บินว่อนเต็มท้องฟ้าจนดำมืดไปหมด และในพริบตานั้น พวกมันพากันโฉบลงมาที่ร่างของนางแต้ม บินหายขึ้นไป ไม่เหลือทิ้งไว้แม้แต่กระดูก”

หรือ “เสียงสาปแช่นนั้นทำให้นางอ่อนแรงโอนเอนล้มลง. เท้าจำนวนมากมายก่ายกองเหยียบย่ำลงมาที่ตัวนางโดยไม่ได้ตั้งใจ นางร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด แขนขา เนื้อตัวใบหน้าถูกเหยียบถูไถไปมาเหมือนผ้าขี้ริ้ว ร่างกายของนางกำลังจะขาดออกเป็นเสี่ยงๆ “แม่จ๋า” นางร้องตะโกนลั่นและตกใจตื่นเหงื่อกาฬท่วมตัว หายใจระริกแทบจะขาดใจ กลุ่มเด็กนักเรียนชาย-หญิงยืนมองเธออย่างสมเพชและค่อยๆเดินจากไป สาลินี ศรีแสบ ทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น และลุกขึ้นยืนหัวเราะ ฮ่า. ฮ่า ฮ่า. มันก็แค่ฝันไป

แต่อย่างไรก็ตาม ผมได้จบเรื่องนางแต้มไปตามที่เขียนไปแล้ว ส่วนใครอยากจะให้จบแบบให้โหดร้ายเหมือนที่นางได้สร้างกรรมไว้ ก็เขียนต่อเอาเองตามใจชอบครับ เพราะคนที่ได้รับความเจ็บปวดจากการกระทำของนางโดยตรงนั้น เท่าที่ผมบรรยายมา มันยังไม่พอจริงๆครับผม

….

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *