เรื่องสั้น เหตุเกิดที่ ม. สารขัณฑ์ (ขี้ฟ้อง)

เรื่องสั้น  เหตุเกิดที่ ม. สารขัณฑ์ (ขี้ฟ้อง)

18

สมัยเรียนโรงเรียนประถม  เพื่อนสมัยเด็กมักจะเล่นแกล้งกันอยู่เสมอๆ เช่น แอบเอาสมุดหนังสือของเพื่อนไปซ่อน หลอกให้เพื่อนหาเล่นตามโต๊ะโน้นโต๊ะนี้ เป็นที่สนุกสนาน แล้วก็เลิกรากันไป แต่มีเพื่อนคนหนึ่งชื่อ อีก๊วก  ซึ่งไม่มีใครชอบและอยากเล่นด้วย  แต่ก็อดอยากแกล้งไม่ได้เพราะสนุกดี แต่ อีก๊วก ไม่สนุกด้วย  แทนที่ อีก๊วก จะใช้วิธีค้นหาแบบเพื่อนคนอื่นๆ แต่ อีก๊วกจะไปฟ้องครู  ครูก็จะเรียกพวกเราไปว่ากล่าวตักเตือน  หรือลงโทษพอเป็นพิธี เพราะครูเข้าใจจิตวิทยาและพัฒนาการของเด็ก ที่เป็นเช่นนั้น  และตั้งแต่นั้นมาเราจึงเรียก อีก๊วก ว่า “อีก๊วกขี้ฟ้อง”

นางแต้มของเรา หรือรักษาการอธิการบดี มหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ ที่ไม่ชอบด้วยกฏหมาย ก็มีนิสัยแบบ อีก๊วกขี้ฟ้อง  มีเรื่องอะไรก็จะแจ้งความร้องทุกข์ หรือฟ้องศาลท่าเดียวโดยไม่สนใจว่า เรื่องที่แจ้งความร้องทุกข์หรือเรื่องที่นำไปฟ้องศาลนั้นสมเหตุสมผลหรือไม่ นอกจากนั้นยังใช้เอกสารเท็จในศาลด้วย เช่น 

1) คณาจารย์ จำนวน  9 คน  เขียนป้ายปิดประกาศว่า “เราไม่ต้องการอธิการบดีที่ไม่มีธรรมาภิบาล” ซึ่งรักษาการอธิการบดีที่เป็นคนปกติทั่วไปก็จะพิจารณาทบทวนดูว่า  ตนเองเป็นอธิการบดีที่มีธรรมาภิบาลหรือไม่  ถ้ามีก็โอเค ที่เขาเรียกร้องนั้นไม่ใช่เรา แต่ถ้าเราไม่มีธรรมาภิบาล ก็ทำให้มันมีเสียก็หมดเรื่อง แต่นางแต้ม สวมวิญญาณของ “อีก๊วกขี้ฟ้อง”  แจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ. และยังนำเรื่องเดียวกันนี้ไปฟ้องอาญา ในข้อหาหมิ่นประมาทอีกด้วย และตรงนี้เองที่นางแต้มใช้คำสั่งแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรักษาการอธิการบดี ซึ่งเป็นเอกสารเท็จประกอบการฟ้อง

2)และเมื่อเร็วๆนี้ คณาจารย์ จำนวน 7 ท่าน ได้ทำหนังสือถึงสภาฯเพื่อให้รักษาการอธิการบดีที่ไม่ชอบด้วยกฏหมาย หยุดปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากไม่มีคำสั่งแต่งตั้ง ซึ่งคนปกติทั่วไปก็จะพิจารณาตนเอง และหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามหลักฐาน  แต่เนื่องจากนางแต้มเป็นคนขี้ฟ้อง    แบบเดียวกัย อีก๊วกขี้ฟ้อง จึงฟ้องศาลในข้อหาหมิ่นประมาท โดยใช้หลักฐานจากกรรมการสภาฯ ซึ่งเป็นคณบดี คณะเปรตศาสตร์ นำเรื่องที่ยังอยู่ในระหว่างการประชุมพิจารณาไม่แล้วเสร็จและไม่มีข้อยุติ ไปบอกนางแต้มที่ถูกกล่าวหาทราบ บุคคนผู้นี้จึงไม่สมควรที่จะปฏิบัติหน้าที่ เป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยอีกต่อไป  และยังมีอีกหลายกรณีที่นางแต้มฟ้องศาลโดยใช้เอกสารที่เป็นเท็จ  ดังนั้น ตั้งแต่นี้ไป เราจึงเรียกนางแต้มว่า “อีแต้มขี้ฟ้อง”

เรื่องการใช้หลักฐานอันเป็นเท็จนี้  ผู้สันทัดกรณีบอกว่า  “ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 175 บัญญัติว่า “ผู้ใดเอาความอันเป็นเท็จฟ้องผู้อื่นต่อศาลว่ากระทำความผิดอาญา หรือว่ากระทำความผิดอาญาแรงกว่าที่เป็นความจริง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท”

ขอมอบ มาตรา นี้ให้กับ”อีแต้มขี้ฟ้อง” ที่มีที่ปรึกษากฏหมายโง่ๆไปเป็นการเพิ่มเวลาอยู่ในคุก  555”

“อีแต้มขี้ฟ้องเอ้ย ! ติดคุกหัวโตแน่นอน”

….

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *