เรื่องสั้น อิงสถานการณ์ (ความจริงเป็นเช่นนั้น)

เรื่องสั้น อิงสถานการณ์ (ความจริงเป็นเช่นนั้น)

1
มีนา จัน รายงานมาว่า สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ของประเทศสารขัณฑ์ (ป.ป.ส.) ได้ประการผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส จากสถาบันอุดมศึกษา 80 แห่ง ในปี พ.ศ. 2562 ผลปรากฏว่า มหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ อยู่ในระดับ A มีคะแนนสูงถึง 90 กว่าๆ รู้สึกว่า จะมาเป็นอันดับที่ 2 ของประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง

แต่ปรากฏมีเสียงวิพากษ์วิจารย์ออกมาประปรายว่า มหาวิทยาลัยแห่งนี้มีการร้องเรียนและฟ้องร้อง มีคดีอยู่ในศาลเป็นจำนวนมาก จึงไม่อยากยอมรับผลการประเมิน บางคนถึงกับอึ้งไป แต่ผมกลับมีความเห็นต่าง ดังนี้

1.การประเมินผลคุณธรรมและความโปร่งใสในระดับอุดมศึกษานี้ มิใช่การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสเฉพาะบุคคล เป็นการประเมินสถาบัน ซึ่งประกอบด้วยบุคลากรเป็นจำนวนมาก ทั้งผู้บริหารและพนักงานมหาวิทยาลัย ประเภท ก. ข. และ ค. ดังนั้น ผลที่ออกมาจึงเป็นเรื่องของบุคลากรส่วนใหญ่ในสถาบัน ที่มีคุณธรรมและความโปร่งใสสูง ในระดับ A ส่วนบุคลากรที่ขาดคุณธรรมและความโปร่งใสต่ำก็มีอยู่บ้างเป็นธรรมดา และบังเอิญเป็นผู้บริหารเสียด้วย แต่ก็มีจำนวนน้อนมาก ฉะนั้น ผลการประเมินที่ออกมาจึงป็นเรื่องที่น่าภูมิใจ ครับผม

2.เนื่องจากมหาวิทยาลัยสารขัณฑ์มีปัญหาเรื่องธรรมาภิบาล ผู้บริหารขาดคุณธรรม ขาดความโปร่งใสมานานแล้ว และมีเรื่องฟ้องร้องอยู่ในศาลเยอะมาก อีกทั้งมีการเรื่องเรียนไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต(ป.ป.ส.) หลายเรื่อง จึงน่าจะมีผลทำให้คะแนนออกมาสูง เพราะป.ป.ส. คงเห็นว่า บุคคลากรในมหาวิทยาลัยนั้น ช่วยตรวจสอบเป็นหูเป็นตาให้ ป.ป.ส. ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของหน่วยงาน คือการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ดังนั้นการที่มหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ได้คะแนนในระดับสูงนั้นจึงเป็นเรื่องดี ซึ่งจะเป็นกำลังใจ ให้บุคคลากรทุกคน ช่วยกันตรวจสอบ สอดส่อง และร่วมมือกันขจัดบุคคลที่ขาดคุณธรรมและไร้ความโปร่งใสให้หมดไปจากสถาบันโดยเร็ว
ที่กล่าวมานั้น มิใช่การพยายามหาเหตุผลมาอ้างเพื่อให้ดูดีนะครับ แต่ความจริงเป็นเช่นนั้น
……

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *