ถ่ายหนังบนองค์พระมหาธาตุเจดีย์

ถ่ายหนังบนองค์พระมหาธาตุเจดีย์
การย่ำยีวิญญาณ


ชาวไทยทุกคนคงจะทราบกันดีว่า เมื่อกรุงศรีอยุธยาแตกครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2310 นั้น ข้าศึกศัตรูได้ตรงเข้าไปเผาทำลายวัดพระศรีสรรเพชญ์อันเป็นวัดในเขตพระราชฐานให้มอดไหม้ไปในพริบตา นั่นหมายความว่าศูนย์รวมจิตใจและจิตวิญญาณของชาวกรุงศรีอยุธยานั้น ได้ถูกทำลายลงอย่างย่อยยับ มันเป็นความเจ็บปวดที่ได้ถูกทำลายสถาบันทางศาสนาและความเลื่อมใสศรัทธา ต่อสถานที่สำคัญและศักดิ์สิทธิ์ อันเป็นที่เคารพรักและหวงแหน เหตุการณ์ครั้งนั้นได้สร้างความเจ็บปวดให้แก่ชาวไทยเป็นอย่างยิ่ง
และท่านเชื่อหรือไม่ว่า เหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้ได้เกิดขึ้นที่กรุงศรีอยุธยาอีกแล้ว ใน พ.ศ. 2540 นี้ เมื่อกรมศิลปากรได้อนุญาตให้บริษัท เอาต์ เวิลด์ โปรดักชั่น จำกัด เข้าไปถ่ายทำ ภาพยนตร์เรื่อง มอร์ทัล คอมแบท ภาค 2 ในวัดพระศรีสรรเพชญ์ วัดมหาธาตุ และวัดไชยวัฒนาราม ซึ่งเป็นศาสนสถานที่สำคัญ


อนิจจา ความเจ็บปวดที่ถูกทำลายสถาบันศาสนา และสถาบันที่ศักดิ์สิทธิ์ เมื่อครั้งกรุงแตกยังไม่ทันจางหายไป ก็กลับมาถูกเหยียบย่ำซ้ำเติมจากผู้รับผิดชอบที่ปัญญานิ่ม เห็นแก่รายได้เล็กๆ น้อยๆ (สองแสนบาท) เอาสถานที่สำคัญทางศาสนา เอาสมบัติทางวัฒนธรรมของชาติมาขาย และใช้ประโยชน์อย่างขาดความเคารพ ท่านไม่รู้หรือแกล้งทำเป็นไม่รู้ว่า วัดพระศรีสรรเพชญ์ วัดมหาธาตุและวัดไชยวัฒนารามนั้น เป็นศาสนสถานในพระพุทธศาสนา เป็นวัด เป็นสถานที่ที่พุทธศาสนิกชนชาวไทยให้ความเคารพนับถือ กราบไหว้บูชา เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สงบเย็น ไม่ใช่สถานที่จะมาทำกิจกรรมที่อึกทึกครึกโครม การที่กรมศิลปากรอนุญาตให้บริษัท เอาต์ เวิลด์ โปรดักชั่น จำกัด เข้าไปถ่ายทำภาพยนตร์ในวัดมหาธาตุอยู่ในขณะนี้นั้นได้สร้างความสะเทือนใจให้แก่ชาวอยุธยาเป็นอย่างมาก
วัดพระศรีสรรเพชญ์นั้น เปรียบได้กับวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว ในกรุงเทพมหานคร เคยเป็นสถานที่ประดิษฐานพระศรีสรรเพชญ์ อันเป็นพระพุทธรูปทองคำขนาดใหญ่มหึมา คือสูงแต่พระบาทถึงพระรัศมี 8 วา (16 เมตร) เมื่อเสียกรุงถูกไฟเผาผลาญและถูกข้าศึกศัตรูลอกเอาทองคำไปหมด และยังเป็นสถานที่เก็บพระบรมอัฐิของพระมหากษัตริย์สมัยอยุธยาถึง 8 พระองค์ คือ สมเด็กพระบรมไตรโลกนาถ สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง สมเด็จพระนารายณ์มหาราช สมเด็จพระเพทราชา สมเด็จพระเจ้าเสือ และสมเด็จพระเจ้าท้ายสระ ความสำคัญเพียงเท่าที่กล่าวมานี้ก็มากมายเกินกว่าที่จะนำสถานที่แห่งนี้ไปทำอย่างอื่นได้ นอกจากเป็นสถานที่เคารพสักการะเท่านั้น
ส่วนวัดมหาธาตุนั้น เป็นวัดที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางทางศาสนาของกรุงศรีอยุธยาเป็นที่ประดิษฐานองค์พระมหาธาตุเจดีย์ ซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ เพื่อให้เป็นศูนย์รวมจิตใจและความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาของประชาชนชาวไทย วัดมหาธาตุจึงเป็นพุทธสถานที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อชาวพุทธทั้งในสมัยอยุธยาและสมัยปัจจุบัน ดังนั้น การอนุญาตให้ขึ้นไปแสดงบนยอดพระธาตุเจดีย์นั้น จึงเป็นการทำลายจิตวิญญาณของชาวพุทธอย่างไม่ต้องสงสัย
อะไรหนอที่ทำให้กรมศิลปากรสามารถทำลายความรู้สึกเลื่อมใสศรัทธาและสร้างความเจ็บปวดให้แก่พุทธศาสนิกชนชาวอยุธยาและชาวไทยได้มากมายถึงเพียงนี้

29 มกราคม 40

Comments are closed.