การปฏิบัติต่อศาสนสถานอย่างขาดความเคารพ

การปฏิบัติต่อศาสนสถานอย่างขาดความเคารพ
(Sacrllege)

ผสมโรง  สยามรัฐรายวัน  หน้าศิลปวัฒนธรรม  พุธที่  19  กุมภาพันธ์  2540

ตามที่กรมศิลปากร โดยสำนักงานโบราณคดีและพิพิธภัณฑ์แห่งชาติที่ 3  ซึ่งรับผิดชอบโบราณสถานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา   มีนายบวรเวท   รุ่งรุจี  เป็นผู้อำนวยการ  ได้อนุญาตให้บริษัท เอาด์เวิลด์โปรดักชั่น   จำกัด  ประเทศสหรัฐอเมริกา  โดยมีบริษัทซาลอนด์ ฟิล์ม ไทยแลนด์  จำกัด  ทำหน้าที่ประสานงาน   เข้าไปถ่ายทำภาพยนต์ เรื่อง มอร์ทัล  คอมแบท  ภาค 2  ในวัดพระศรีสรรเพชญ์   วัดมหาธาตุและวัดไชยวัฒนาราม  จังหวัดพระนครศรีอยุธยา   อันเป็นโบราณสถานล้ำค่าที่ได้รับการขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลก   แต่ปรากฎว่าการถ่ายทำภาพยนตร์ดังกล่าวมีการเหยียบย่ำปีนป่าย   ใช้ไฟเผาและใช้ระเบิด   ทำให้ประชาชนชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยาตื่นตกใจ   เกรงว่าโบราณสถานสำคัญจะถูกทำลาย   และได้ออกมาปกป้อง   เป็นเหตุให้เกิดปัญหาขัดแย้งกันระหว่างฝ่ายที่อนุญาตและบริษัทผู้ประสานงานในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ที่เห็นว่าการถ่ายภาพยนตร์ดังกล่าวเป็นการประชาสัมพันธ์เมืองไทย  เพิ่มรายได้ให้กับจังหวัดพระนครศรีอยุธยา   และไม่ทำให้โบราณสถานเสียหาย   กับอีกฝ่ายหนึ่งซึ่งเป็นบุคคลในพื้นที่  ที่เห็นว่าการอนุญาตให้บริษัทต่างชาติเข้าไปถ่ายทำภาพยนตร์ในโบราณสถานซึ่งเป็นศาสนสถานนั้น  เป็นการลบหลู่ดูหมิ่นศาสนา  ทำลายสมบัติทางวัฒนธรรมของชาติและจิตวิญญาณของประชาชน


ความจริงแล้ว  ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ถ่ายทำที่วัดพระศรีสรรเพชญ์  วัดราชบูรณะ   และวัดไชยวัฒนาราม  ในภาค 1  และฉายในเมืองไทยไปแล้ว   ภาพและเรื่องราวที่ปรากฎมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่เหมาะสมคือมีลักษณะที่แสดงถึงการปฏิบัติต่อศาสนสถาน   อย่างขาดความเคารพ(Sacrilege)   เช่น การระเบิดองค์พระมหาธาตุเจดีย์วัดไชยวัฒนาราม เป็นต้น จึงเห็นว่าไม่ควรให้มีการถ่ายทำภาพยนตร์ในลักษณะเช่นนั้นอีกต่อไป
เพื่อให้เห็นภาพในเรื่องนี้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น   ขอนำเสนอเรื่องราวและฉากที่ปรากฏในภาพยนตร์  มอร์ทัล  คอมแบท  ภาค 1  มาเพื่อพิจารณาดังนี้
ภาพยนตร์เรื่อง  มอร์ทัล  คอมแบท ดัดแปลงมาจากวีดิโอเกมเป็นเรื่องของการทำสงครามที่จะชี้ชะตามนุษย์ชาติระหว่างมนุษย์กับนักรบปีศาจของพ่อมดร้าย   ซึ่งมนุษย์พ่ายแพ้มาแล้ว 9 ครั้ง  และจะแพ้อีกไม่ได้   เพราะจะทำให้ปีศาจได้ครองความยิ่งใหญ่เหนือชาวโลก   จึงเป็นภาระหน้าที่หนุ่มสาวฝ่ายธรรมะโดยมีพ่อมดฝ่ายธรรมะคอยช่วยเหลือแนะนำในการต่อสู้กับฝ่ายอธรรม  ดังนั้น  เรื่องราวส่วนใหญ่จึงเป็นการต่อสู้กันในรูปแบบของมวยจีน
ส่วนฉากโบราณสถานที่ปรากฎในภาพยนตร์  มีดังนี้
1.  ฉากวัดพระศรีสรรเพชญ์   เป็นฉากการต่อสู้ระหว่างนักสู้ฝ่ายอธรรมกับนักสู้ฝ่ายธรรมะ   บนพระมณฑปที่เคยประดิษฐานรอยพระพุทธบาท   ข้างเจดีย์สามองค์   ปรากฏว่าฝ่ายธรรมะเสียชีวิต
2.  ฉากวัดราชบูรณะ  เป็นฉากภายในพระวิหารวัดราชบูรณะ  ที่เต็มได้ด้วยพระและสามเณร (พระจีน)   ซึ่งสมมติว่าเป็นวัดแสงสว่าง(the Temple  of  Light)   ตัวเอกกำลังสนทนากับเจ้าอาวาส   มีพ่อมดเดินเข้ามา  ทำให้พระทั้งหมดก้มลงคารวะ   จากนั้นมีการถกเถียงและต่อสู้กัน
3.  ฉากวัดไชยวัฒนาราม  ปรากฎในภาพยนตร์ 2 ฉาก
ฉากแรกเป็นภาพวัดไชยวัฒนาราม  ถ่ายจากด้านริมแม่น้ำเจ้าพระยา   ใต้ภาพมีตัวอักษรภาษาอังกฤษบรรยายว่า Temple of  Light , China พระเอกนั่งเรือหางยาวมาขึ้นที่หน้าวัด  และเดินเข้าไปพบเจ้าอาวาสที่หน้าพระอุโบสถ
ฉากสอง  เป็นตอนจบของเรื่อง  เป็นภาพวัดไชยวัฒนาราม  ถ่ายจากด้านทิศเหนือ มีกลุ่มเด็กนักเรียนและสามเณรวิ่งถือธงเข้าไปในวัด   แสดงความยินดีกับเหล่านักสู้ฝ่ายธรรมะ  ที่ได้รับชัยชนะกลับมา   จากนั้นเป็นภาพการระเบิดในคูหาพระปรางค์  2  ครั้ง  มีเศษอิฐกระเด็นตกลงมาตามบันไดทางขึ้น   และภาพองค์พระมหาธาตุเจดีย์(พระปรางค์)  ระเบิดกระจายออกปรากฎภาพปีศาจขนาดใหญ่   ส่งเสียงร้องกึกก้อง
จากภาพต่างๆที่ปรากฎในภาพยนตร์  มีคำถามถึงผู้ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่ง  กรมศิลปากร ดังนี้
1.  ภาพยนตร์เรื่องนี้มีเนื้อหาไม่เป็นสาระ  มีการล้างแค้น   ต่อสู้  เข่นฆ่ากัน  แบบภาพยนตร์จีน   สำหรับภาค 2 นี้  การแต่งกายไม่เหมาะสมใช้คูหาปรางค์   ซึ่งเป็นสถานที่ประดิษฐาน องค์พระปฏิมา  ให้เป็นที่สถิตของเหล่าปีศาจและสัตว์ประหลาด  ซึ่งเป็นการหลบลู่ดูหมิ่นศาสนสถาน “ขัดต่อกฎหมาย วัฒนธรรมไทย  ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน”  ตามระเบียบกรมศิลปากร   ว่าด้วยการขออนุญาตถ่ายทำภาพยนตร์ในเขตโบราณสถาน พ.ศ. 2536 ข้อ 4(5)
2.  การใช้ภาพวัดไชยวัฒนารามแต่มีคำบรรยายใต้ภาพว่า “The Temple  of Light , China”  นั้นหมายความว่าอย่างไร ตรงนี้คุณบวรเวทรุจี   ผู้อำนวยการสำนักโบราณคดีฯ กรมศิลปากร ที่กล่าวว่า “การที่กรมศิลปากรอนุมัติให้ถ่ายภาพยนตร์กลางโบราณสถานสำคัญครั้งนี้   จะเป็นการโปรโมตเมืองไทย   โดยเฉพาะอย่างยิ่ง   จะทำให้วัดพระศรีสรรเพชญ์มีชื่อเสียงไปทั่วโลก   และยังเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับ จ. อยุธยา (ข่าวสด.28 ม.ค. 40 :10”   ขอให้คุณบวรเวท  รุ่งรุจี  ช่วยตอบด้วย   ที่ว่าเป็นการโปรโมตเมืองไทยนั้น โปรโมตตรงไหนและอย่างไร
3.  ภาพพระมหาธาตุเจดีย์   วัดไชยวัฒนารามระเบิกกระจายออกไปปรากฎเป็นภาพปีศาจนั้น อยากถามว่า การที่พระบรมธาตุเจดีย์ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ  เป็นศูนย์รวมความเลื่อมใสศรัทธาของผู้คน  เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์  ถูกระเบิดทำลาย   อันถือได้ว่าเป็นการปฏิบัติต่อ   ศาสนสถานอย่างขาดความเคารพนั้น   ท่านไม่มีความรู้สึกอะไรบ้างเลยหรืออย่างไร
ก็ชอบอ้างกันแต่ว่า  สิ่งที่ระเบิดพังทะลายลงไปนั้นเป็นเพียงของปลอมไม่ใช่ของจริง  ผมอยากถามว่า  ถ้าสร้างรูปสิ่งที่คุณรักเคารพบูชา(ปลอม) แล้วมีใครมาระเบิดทำลาย   คุณจะทนได้หรือเปล่า

ซึ่งถ้าคุณทนได้ก็แล้วไป  แต่ผมทนไม่ได้

Comments are closed.