อาจซื้อเวลา

วิสุทธิ์ ตูน 3 พฤษภาคม 2552

วันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11368 มติชนรายวัน

“มาร์ค”ดันสภาตั้งกก.แก้รธน. ชุพิสูจน์ความจริงสลาย”แดง”

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวปิดการอภิปรายทั่วไปในการประชุมร่วมกันของ 2 สภา เมื่อเวลา 00.15 น. วันที่ 24 เมษายน ชี้แจงการเข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่าเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย และไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย สมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็พยายามหลีกเลี่ยงที่จะเรียกร้องให้ทั้งสองคนลาออก เพราะจะโดนหาว่า เรียกร้องเพื่อให้ตัวเองหรือไม่ เกรงจะมีการช่วงชิงกันในสภา

“ผมสบายใจในที่มาในสภาวะแบบนี้หรือไม่ ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้น แต่ก็เป็นมติของสภาแล้ว ก็ตั้งใจทำงานพิสูจน์ให้ทุกคนเห็น” นายอภิสิทธิ์กล่าว

นายอภิสิทธิ์ยังชี้แจงถึงการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และการบังคับใช้กฎหมายที่แตกต่างจากการประกาศ 2 ครั้งในสมัยรัฐบาลนายสมัครและนายสมชาย พร้อมระบุว่า ได้ประชุมทำความเข้าใจกับผู้ปฏิบัติหลายครั้ง ยืนยันว่าให้ตำรวจ ทหาร มีเป้าหมายรักษากฎหมาย หยุดสภาวะจลาจล ไม่มีเป้าหมายไปสลายการชุมนุมที่ชอบด้วยกฎหมาย และยืนยันว่าไม่ใช้กฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่นใดเพื่อประโยชน์ทางการเมือง ยืนยันว่าไม่มีการเอากฎหมายไปไล่ล่ากวาดล้าง เพราะทราบดีว่า ถ้ามีการกระทำไม่เหมาะสม หรือมีคนเสียชีวิต มันย้อนกลับมาแน่

“2 วันที่ผ่านมามีสมาชิกเสนอข้อมูลว่ามีคนตาย มีการปฏิบัติการรุนแรง ผมก็ได้ชี้แจงไป แต่ก็ถือว่าที่เสนอมาล้วนเป็นข้อมูล ฉะนั้นขอเสนอว่า ให้ประธานสภาตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่ง ให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม เอาข้อมูลความแคลงใจมาพิสูจน์ให้ได้ความจริงปรากฏแก่สังคมเพื่อความโปร่งใส และตรงนั้นจะเป็นตัวพิสูจน์ ก็จะเป็นธรรมกับผม รัฐบาล และฝ่ายค้าน ก็ขอรบกวนวิป 3 ฝ่าย ปรึกษาประธานรัฐสภาต่อไปว่า องค์ประกอบกรรมการชุดนี้จะเป็นอย่างไร” นายอภิสิทธิ์กล่าว

นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงข้อเรียกร้องให้ยุบสภาเพื่อแก้ปัญหาว่า ไม่คิดว่าจะแก้ปัญหาได้ เพราะ 1.ถ้ายุบสภาวันนี้ก็ยังใช้กติกาซึ่งหลายคนบอกไม่ยอมรับ แล้วถ้ามีทุจริตและยุบพรรคอีก ไม่ยิ่งซ้ำเติมวงจรปัญหาหรือ 2.การเลือกตั้งจะเป็นทางออกเมื่อทุกพรรคสามารถไปหาเสียงได้ทุกที่โดยปราศจากความรุนแรง ฉะนั้นต้องปรับสภาพความขัดแย้งทางการเมืองตรงนี้ก่อนเลือกตั้ง ดังนั้น จึงเชิญทุกพรรคและ ส.ว. เสนอมาให้เห็นว่า รัฐธรรมนูญมาตราใดไม่ยุติธรรม แล้วประธานสภาและวิป 3 ฝ่าย มาร่วมตัดสินใจ ว่าจะเดินอย่างไรต่อ จะเอาให้สถาบันพระปกเกล้า หรือสภาเดินเอง หรือไปประชาพิจารณ์ ประชามติ ซึ่งรับได้ทั้งสิ้น วันนั้นถ้ามีกติกาที่ตกลงร่วมกันแล้วแล้วจะให้ยุบสภาก็ยินดี

“เมื่อประกาศยกเลิกใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว ขอความกรุณาว่า 1.การปกป้องสถาบันกษัตริย์ เพราะเมื่อทุกคนอภิปรายยืนยันความจงรักภักดี ฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นการจาบจ้วงหรือแอบอ้างทุกฝ่ายต้องยุติ 2.เรื่องความรุนแรง ขอให้ทุกคนหันมาส่งเสียงร่วมกันว่า ไม่รับ ซึ่งถ้าออกจากกรอบสองข้อนี้ได้แล้ว การแสดงความเห็น การชุมนุม ทุกฝ่ายก็จะทำได้อย่างสบายใจ และร่วมกันแก้กติกาที่ไม่เป็นธรรม” นายอภิสิทธิ์กล่าว

หน้า 13


Comments are closed.