วิสุทธิ์ ตูน 24  มีค 53

พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย เดินทางนำยาสามัญประจำบ้านมามอบให้กับผู้ชุมนุม พร้อมขึ้นเวทีปราศรัยของกลุ่มคนเสื้อแดง เปิดเผย ถึงการเจรจาระหว่าง รัฐบาลกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ว่าไม่ใช่เรื่องหลักในตอนนี้ เพราะทุกอย่างอยู่ที่จิตใจของรัฐบาล ในฐานะผู้ปกครอง ว่าจะเข้าใจประชาชนหรือไม่ เพราะการที่ผู้ชุมนุมรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก ถือเป็นความงดงาม ซึ่งรัฐบาลจะรู้ว่าควรจะปฏิบัติอย่างไร ส่วนจะยุบสภาหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกฯ เอง ทั้งนี้ ยังขอให้กลุ่ม นปช.ยืดมั่นในแนวทางสันติวิธี เพราะความรุนแรงไม่สามารถนำมาสู่ชัยชนะได้ นอกจากนี้ ประธานพรรคเพื่อไทย ยังกล่าวด้วยว่า ปัญหาทุกอย่างสามารถแก้ไขได้โดยช่วงข้ามคืน แต่ตอนนี้อยากให้นายกฯออกมาจากกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ เพื่อเจรจากันก่อน อย่างไรก็ตามไม่ขอชี้แนะว่ารัฐบาลควรจะทำอย่างไรเนื่องจากชี้แนะมาหลายครั้งแล้ว

นอกจากนี้ กล่าวแสดงความชื่นชม นายวีระ มุสิกพงศ์ ประธาน นปช. ว่า “นายแน่มาก” ที่ยึดหลักการชุมนุมด้วยสันติวิธี โดยอ้างว่า กลุ่มคนเสื้อแดงได้ต่อสู้เพื่อเอาประชาธิปไตยกลับคืนสู่ประชาชนได้สำเร็จแล้ว และเป็นมวลมหาชนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ขณะเดียวกันนี้ยังเรียกร้องให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้คืนอำนาจการปกครองกลับคืนสู่ประชาชน เพื่อสามารถให้ประเทศชาติมีกระบวนการสร้างความพัฒนาต่อไปได้

ด้าน นายนิสิต สินธุไพร ประธานโรงเรียน นปช. หนึ่งในแกนนำกลุ่มเสื้อแดง ได้ปราศรัยบนเวทีชุมนุมแก่คนเสื้อแดง ว่าขณะนี้กลุ่มคนเสื้อแดงได้ถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม และอ้างว่า ในการเดินชุมนุมไปตามถนนต่างๆ ได้รับการต้อนรับอย่างดี โดยเฉพาะกลุ่มที่เดินทางผ่านถนนเยาวราช ตลอดทั้งสองข้างทาง ได้มีประชาชนมาโบกไม้โบกมือ ต้อนรับเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ นายนิสิต ยังอ้างว่า กระบวนการที่มาของอำนาจรัฐประหารว่ามี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อยู่เบื้องหลังการล้มล้างรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยมีการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอน 4 ขั้นตอน คือ วางแผนล้มล้างรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ การให้ยุบพรรคการเมือง ทำให้เกิดความแตกแยก และ สุดท้าย คือ การให้ประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาล ซึ่ง นายนิสิต ยังอ้างอีกว่า สาเหตุที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ไม่ยุบสภา ทั้งที่มีกลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนมากชุมนุมขับไล่นั้น เป็นเพราะว่า เงินที่กู้มา 8 แสนล้านบาท ยังแจกจ่ายกันไม่หมด

ขณะที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. กล่าวยืนยันว่ากลุ่ม นปช.จะไม่มีการเจรจา หากนายกฯ ส่ง นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ เป็นผู้เจรจา เนื่องจากไม่มีอำนาจในการสั่งการ โดยหากจะมีการเปิดเจรจา จะต้องเป็นตัวนายกฯ เท่านั้น และข้อเสนอเดียว ก็คือการยุบสภา รวมทั้งไม่จำเป็นต้องมีคนกลางเข้ามาเจรจาในครั้งนี้ ทั้งนี้ยังระบุด้วยว่า หากนายกฯ ไม่มีการประกาศยุบสภา กลุ่ม นปช.จะชุมนุมยืดเยื้อ และเพิ่มความเข้มข้นของมาตรการ ในการชุมนุมให้มากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะเดินทางไปยังพรรคชาติไทยพัฒนาในวันพรุ่งนี้หรือไม่

นอกจากนี้ นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวด้วยว่า การเคลื่อนขบวนของกลุ่ม นปช.ทั่วกรุงเทพฯ ในวันนี้ ถือว่า ประสบความสำเร็จ เพราะได้รับการสนับสนุนจากคนกรุงเทพฯ เป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ กลุ่มผู้ชุมนุม เป็นจำนวนมากที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ต่างส่งเสียงและตบหัวใจ และตีบตบอย่างคึกคักมากกว่าทุกวันที่ผ่านมา อย่างเห็นได้ชัด ภายหลังจากที่แกนนำ นปช.นำกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนหลายหมื่นคน เคลื่อนขบวนไปตามท้องถนนทั่วกรุงเทพฯ ตลอดทั้งวันนี้ โดยไม่มีเหตุรุนแรงใดเกิดขึ้น ขณะที่บนเวที นายอรรถชัย อนันตเมฆ ดารานักแสดงชื่อดัง ยังได้เรียกร้องให้แกนนำพรรคร่วมรัฐบาล และ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ให้รีบกลับไปอยู่ฝั่งของคนเสื้อแดงด้วยอย่างไรก็ดี เป็นที่น่าสังเกตว่าในวันนี้แกนนำ นปช. ที่ขึ้นเวทีทั้ง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นาย
ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร ต่างก็แสดงความมั่นใจว่า รัฐบาลจะตัดสินใจ
ประกาศยุบสภาในเร็วๆ นี้
20  มีค. 53